‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ เปิดใจ เล่าชีวิตวัยเด็กเคยอยู่วัด ด้านคุณแม่ยังเก็บขยะเหมือนเดิม
แอนนา เสืองามเอี่ยม เปิดใจ ในรายการคุยแซ่บโชว์ เผยว่าตอนเป็นเด็กเคยอยู่วัด ไม่เคยท้อ จนมีวันนี้ ด้านคุณแม่ยังทำงานเก็บขยะเหมือนเดิม เพราะอยากทำให้บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อย
แอนนา เสืองามเอี่ยม ออกมา เปิดใจ เล่าเรื่องชีวิตวัยเด็กว่ากว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ได้ดีเพราะเคยอยู่วัดมาก่อน เล่าเคล็ดลับมูยังไงให้ได้มง พร้อมชวนคุณแม่มาพูดคุยเกี่ยวกับความภาคภูมิใจในตัวลูกสาว หลังรับตำแหน่ง Miss Universe 2022 ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One 31
ชีวิตของแอนนาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ?
แอนนา : ชีวิตที่ผ่านมาถามว่าลำบากไหม เราไม่เคยคิดว่าลำบากเลย แต่พอเราโตขึ้น ได้ฟังเรื่องราวของคนอื่นมากขึ้น มันก็เริ่มกลับมาคิดแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะว่าเราต้นทุนน้อยกว่าคนอื่น แอนนาเติบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ
แล้วคุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน ทำให้แอนนาอยู่กับคุณพ่อ 2 ท่าน แต่พอคุณพ่อไปทำงาน แล้วแอนนาเป็นผู้หญิงคนเดียว คุณทวดที่เป็นแม่ชีก็เลยขอคุณพ่อให้แอนนาไปอยู่กับคุณทวดที่วัด ทำให้แอนนาอยู่วัดมาตั้งแต่ ป.3 จนจบมหาวิทยาลัย
ตอนเด็ก ๆ เคยมีความอิจฉาเพื่อนไหม เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่สุขสบาย แล้วมาเทียบกับตัวเอง มีไหม ?
แอนนา : ความรู้สึกของหนูที่มองย้อนกลับไป แอนนาไม่ได้มองว่าเป็นความน่าอิจฉาแล้วกัน แอนนามองว่าเราเป็นแค่อารมณ์เด็กผู้หญิงทั่วไป แอนนาเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนอาจจะมีการมองตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบบ้างบางครั้งว่าทำไมเขาถึงมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกว่า
ทำไมเขาถึงได้ไปเที่ยวที่ดีกว่า ทำไมเขาถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่าเรา แต่มันเป็นแค่โมเมนต์หนึ่งเท่านั้น พอเวลาผ่านไป เรื่องเหล่านี้ก็ลืมไปมันเป็นธรรมดา และเป็นธรรมชาติของทุกคน แต่ไม่เคยมองแบบฝังใจว่าทำไม ๆ
เรามีวิธีการคิดบวกตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหม ?
แอนนา : หนูว่าใช่ด้วย อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของเราเติบโตมากับคุณทวด โตมากับวัดเราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเราขาด หรืออาจจะเป็นความรักที่ทุกคนมอบให้แอนนา ไม่ว่าจะเป็นคุณทวด คุณพ่อ คุณแม่ แม้ว่าเราจะไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ความรักที่ทั้ง 3 ท่าน มอบให้ไม่เคยขาดเลย ทุกคนเติมเต็มให้แอนนา เหมือนแอนนาเป็นเด็กผู้หญิงปกติคนหนึ่งเลย
ย้อนกลับไปตอนนั้นเคยมีเรื่องท้อบ้างไหม ?
แอนนา : แอนนาว่าทุกคนมีเรื่องท้อหมด แอนนาเลยไม่ได้มองว่าสิ่งที่มันท้อที่สุดคืออะไร แต่อาจจะเป็นในเรื่องของการศึกษามากกว่า เพราะว่าเป็นประเด็นที่แอนนาหยิบยกขึ้นมาพูดในเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ด้วย แอนนามองว่าการศึกษา ที่ทุกคนบอกว่าการศึกษาเป็นขั้นพื้นฐาน
เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ แต่ทำไมเด็กที่มีต้นทุนน้อยกว่าถึงได้รับไม่เท่าเด็กที่มีต้นทุนมากกว่า มันเลยเป็นสิ่งที่แอนนาอยากมาพูด อยากถ่ายทอดประสบการณ์ บางครั้งเสียงของแอนนาที่มันดังขึ้นอาจจะช่วยเหลือเด็กหลาย ๆ คนประสบปัญหาการศึกษา ประสบความสำเร็จได้มากกว่าแอนนา
ตอนเด็ก ๆ เราเคยโดนล้อบ้างไหมว่าเด็กวัด ๆ ?
แอนนา : มีบ้าง แต่เข้าใจนะคะมันเป็นช่วงวัยเด็ก แอนนาไมาได้โกรธหรือว่าแค้นเขานะคะ สุดท้ายมันก็ผ่านไป ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้น
เป็นเด็กวัดดีจะตาย ได้รางวัลติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ?
แอนนา : ได้มาเยอะมาก แต่ที่ได้มาจนถึงทุกวันนี้คือสวดมนต์
ทานข้าวก้นบาตรพระด้วย ?
แอนนา : ใช่ค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ในวัดก็เลยได้ทานข้าวก้นบาตรพระ แอนนามองว่ามันเป็นข้าวปกตินะคะ อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอิ่มท้อง ไม่ได้เป็นข้าวที่แตกต่างจากคนอื่นเลย
เคยคิดว่าตัวเองโตขึ้นอยากจะเป็นแม่ชี ?
แอนนา : ใช่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมของเราด้วย ก็เลยคิดว่าบั้นปลายชีวิตเราคงไม่ต้องการอะไรแล้วแหละ นอกจากความสงบ ก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ตอนเด็กแล้วกัน สุดท้ายเป้าหมายเราก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีเป้าหมายใหม่ ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ถามว่ายังมีความคิดแบบนั้นอยู่ไหม มีค่ะ แต่ว่าขอเต็มที่กับตรงนี้ก่อน
ถ้าทุกวันนี้คุณทวดยังอยู่มีอะไรจะขอบคุณคุณทวดไหม ?
แอนนา : มีเยอะมากเลย แอนนามีทุกวันนี้ และเป็นคนที่คิดบวกแบบนี้ได้เพราะท่านเลยค่ะ ทุกอย่างที่คุณทวดสอนแอนนามา แม้หลายคนมองว่าช่วงอายุที่ห่างกัน ความคิด การสอนจะไม่ปัจจุบันหรือเปล่า แต่แอนนาอยากบอกเลยว่าทุกคำสอนที่คุณทวดสอนแอนนามันส่งผลให้แอนนามีทุกวันนี้
ทำให้แอนนาเป็นคนคิดบวก ให้แอนนาประสบความสำเร็จได้รับมงกฎนี้ อยากบอกคุณทวดว่าวันนี้หนูทำสำเร็จแล้ว แล้วทุกคำสอนที่ทวดบอกแอนนามามันทำให้แอนนาประสบความสำเร็จ
มีคำสอนคำไหนของคุณทวดที่เราจำได้ถึงทุกวันนี้ ?
แอนนา : ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันเป็นคำที่ทุกคนได้ยินปกติอยู่แล้ว แต่ไม่เคยอิน ซึ่งคำนี้มันเป็นคำปกติของแอนนาเหมือนกัน แต่พอเราเชื่อ และพยายามมากขึ้น มันก็สำเร็จจริง ๆ แอนนาอยากจะบอกทุกคนว่าสุดท้ายชีวิตเราราบรื่น แต่ความพยายามจะทำให้เราสำเร็จได้จริง เชื่อมั่นในตัวเอง
เราได้รับตำแหน่งแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ยังทำอาชีพเดิม เราเคยขอให้คุณพ่อคุณแม่หยุดทำงานไหม ?
แอนนา : แอนนาไม่เชิงบอกให้คุณพ่อ คุณแม่เลิกทำงานเก็บขยะ กวาดขยะนะคะ เราแค่อยากให้คุณแม่สบายมากขึ้นมากกว่า แต่ว่าเรื่องอาชีพแอนนาไม่ได้มองว่าเป็นอาชีพที่แย่อะไร สุดท้ายแล้วอาชีพที่คุณพ่อ คุณแม่ทำมันเป็นอาชีพที่ช่วยเหลือหรือมีประโยชน์ต่อสังคมทั้งนั้น
ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะเลิกทำ อยากให้เขาเลิกทำเพราะว่าเขาตัดสินใจเอง ไม่อยากให้เลิกทำเพราะแอยนาบอก สุดท้ายอาชีพนี้มันก็ส่งประโยชน์แก่สังคม แอนนามองว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่ให้คุณพ่อคุณแม่เลิกทำอาชีพนั้น ถ้าเป็นความสุขของท่านก็ยินดีที่จะสนับสนุนต่อไปเรื่อย ๆ
ล่าสุดมีคนจำคุณพ่อได้ มาขอถ่ายรูปด้วย แต่คุณพ่อจะบอกว่าไม่อยากถ่ายด้วยเลย เกรงใจ กลัวว่าตัวคุณพ่อจะเหม็นคุณพ่อทำตัวไม่ถูก ?
แอนนา : หนูเข้าใจคุณพ่อเหมือนกัน โทร. ไปถามคุณพ่อเลยตอนเห็นข่าวนี้ คุณพ่อบอกว่าสุดท้ายแล้วเขาโอเค คือเขาไม่ได้โกรธอะไร แต่ว่า ณ ตอนนั้นด้วยอาชีพที่เขาทำอยู่ทำให้มีกลิ่นตัว เขาก็เกรงใจมากกว่า คุณพ่อคุณแม่แอนนาเป็นคนที่เกรงใจคนอื่นเยอะมาก
ทำให้แอนนาเป็นคนที่ขี้เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน แอนนาเข้าใจในมุมของคุณพ่อ แล้วพอเราอยู่ตรงนี้เราก็เข้าใจในมุมของแฟนคลับด้วย ทุกคนอยากให้กำลังใจแอนนา อยากให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่แอนนา
แต่สุดท้ายแล้วอยากจะฝากบอกทุกคนที่รักแอนนาว่าบางครั้งคุณพ่อแอนนายังใหม่มาก ๆ ก็อยากให้เข้าใจทั้งคุณพ่อ และคุณแม่แอนนาด้วย แต่แอนนาเข้าใจแฟนคลับทุกคนนะคะ
ตั้งแต่ก่อนประกวดจนวันที่สิ้นสุดการประกวดแอนนาเจอคุณแม่น้อยมาก ?
แอนนา : ใช่ค่ะ เพราะว่าแอนนาเทรนด์หนักมากจริง ๆ แต่ก็มีโอกาสได้เจอคุณแม่วันที่ 12 ที่ผ่านมา ได้บอกคุณแม่ว่าวันนี้หนูทำสำเร็จแล้วนะ
อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง ?
แอนนา : ทุกอย่างที่แม่เชื่อ ที่คิดว่าการศึกษาจะเปลี่ยนชีวิตหนู แม่พยายามทำงานหนักเพื่อหนู วันหนึ่งตี 5 ถึง 3 ทุ่ม ต้องการให้ชีวิตหนูดีขึ้น วันนี้มันประสบความสำเร็จแล้ว ขอบคุณที่เหนื่อยกับหนูมา
เห็นว่าตอนประกวดน้องแอนนาถือเคล็ดด้วย โอนเงินให้คุณแม่ด้วย ?
แอนนา : แอนนาโอนหมายเลขแอนนา 19 บาท แอนนาบอกแม่ว่าหนูขอเลขบัญชีหน่อย เขาบอกจะโอนมาเท่าไหร่ไม่ต้องโอนมาเยอะมากนะ พอโอน 19 บาท บอกโอนมาทำไม
อันนี้ใครบอกเคล็ดไหม ?
แอนนา : แอนนาได้ยินจากพี่ในกอง เป็นพี่ตากล้อง เห็นเราสายมู เขาบอกว่าสิ่งที่เราควรจะบูชาที่สุดคือพระในบ้าน เราโอนไปเป็นเคล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เลยโอนตามหมายเลขตัวตัวเองไปเลย
ตอนน้องแอนนาเด็ก ๆ มีช่วงหนึ่งที่คุณแม่ไปอยู่วัดด้วยเหรอ ?
แม่ : ค่ะ เพราะว่าหนูอยากอยู่ใกล้ ๆ ลูก อยากอยู่ใกล้ ๆ แม่ชี ได้อยู่รวมกันแบบมีความสุข หนูทำงานเลิกประมาณ 3 ทุ่ม ช่วงกลับมาจากโรงเรียนเขาจะอยู่กับใคร ถ้าเขาอยู่วัด อยู่กับแม่ชี ก็มีความปลอดภัย แต่เราก็เจอกันน้อย กลับ 3 ทุ่ม เกือบทุกวัน
แอนนา : จะมีแค่วันเสาร์ แม่ทำงาน 2 ที่ ก็จะเป็นช่วงที่เราได้ทานข้าวด้วยกัน เป็นวันเสาร์ตอนเย็นวันเดียวต่ออาทิตย์
คุณแม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่เหนื่อยขนาดไหนที่เลี้ยงลูกสาวคนนี้มาเพียบพร้อมขนาดนี้ ?
แม่ : สนุกกับงานมากกว่า อยากจะเห็นลูกประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้เขาเหนื่อย ถ้าเขาเรียนจบสูง ๆ มันเป็นแรงบันดาลใจให้หนูทำงานแล้วให้ลูกได้เรียนสูง ๆ หนูก็ดีใจแล้วค่ะ
เห็นว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ๆ ?
แม่ : ใช่ค่ะ
ทำงานกี่อย่างคะ ?
แม่ : ทำงาน 3 ที่ ต่อวันค่ะ กวาดถนน แม่บ้าน ตอนเย็นก็ไปทำงานอีกรอบ ตอนเช้าตี 5 เลิกเกือบบ่ายโมง ใช้เวลา 15-20 นาทีรีบกิน ๆ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ขับมอเตอร์ไซค์ไปเลย ต้องใช้เวลาในความไว แล้วไปเป็นแม่บ้านเลิก 6 โมงเย็น แล้วไปต่อตอนเย็นอีกที่เข้าประมาณทุ่มกว่า ๆ
อะไรที่ทำให้แม่รู้สึกว่าอยากให้ลูกคนนี้เรียนสูง ให้ความสำคัญกับการศึกษาขนาดนี้ ?
แม่ : อยากให้เขามีความรู้เยอะ ๆ การที่เขามีความรู้ติดตัวเนี่ยมันจะช่วยปรับพื้นฐานในชีวิตเขาดีขึ้น
แอนนาเรียนจบอะไรมา ?
แอนนา : แอนนาเรียนจบการโรงแรมและท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวกับคุณพ่อ คุณแม่เลย อย่างคุณพ่อไปได้ไกลสุดคือโรงเก็บขยะตอนเด็ก ๆ ที่เคยไปเที่ยวกับคุณพ่อ เราเลยคิดว่าอาชีพไหนนะที่ 1
เราได้เที่ยวด้วยแล้วเราได้เงินด้วย ก็เลยอยากเป็นแอร์โฮสเตส ก็เลยเรียนการโรงแรมและการท่องเที่ยว แต่พอจบมาโควิดเลย ก็อาจจะเป็นดวงด้วยเหมือนกัน เราเลยอยู่ในเส้นทางการประกวดที่หนักมากขึ้น ได้รู้จักเวทีการประกวดเยอะขึ้น
ตอนนี้ลูกสาวเราได้รับตำแหน่งเป็นไอดอลของผู้หญิงทั้งประเทศทำไมคุณแม่ยังยึดอาชีพเดิมอยู่ คนอื่นเขาคงเลิกแล้วนอนอยู่บ้านให้ลูกเลี้ยงดีกว่า ?
แม่ : หนูอยากกวาดถนนไปเรื่อย ๆ เพราะทำให้บ้านเมืองสะอาด ได้พัฒนาตามวัด ตามคูคลอง เวลาหนูไปกวาดวัดหนูอธิษฐานว่าขอให้ลูกได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส
หลังจากที่ลูกได้ตำแหน่ง คุณแม่ชีวิตเปลี่ยนด้วยไหม ?
แม่ : มีแต่คนทักเวลาไปตลาด เขาเรียกว่าแม่นางงาม
เวลาไปไหน คนมาขอถ่ายรูปแม่เยอะไหม ?
แม่ : หนูหลบ ๆ
ลูกสาวคนนี้เคยขอให้แม่หยุดทำงานบ้างไหม ?
แม่ : แม่ต้องพักสักที่นะ เหนื่อยมาก แต่คุณแม่ชอบทำงาน มันสนุกดี เพราะเห็นเงินแล้วอยากจะเก็บไว้ให้แอนนาสักก้อนเวลาเราจากโลกนี้ไปแล้ว ถึงเขาจะมีแต่เราก็อยากจะให้เขา อยากเป็นฝ่ายให้มากกว่าฝ่ายรับ
คุณแม่ภูมิใจคุณลูกขนาดไหน ?
แม่ : ภูมิใจมาก ไม่ทำให้แม่ผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การครองตัว อะไรหลาย ๆ อย่าง แอนนาเป็นเด็กดีมากเลย
- แฟนนางงามอวย ‘แอนนาเสือ’ หน้าสดสวยเหมือน ‘อั้ม พัชราภา’
- ‘แอนนาเสือ’ ร่วมเฟรมคู่คุณพ่อครั้งแรก หลังคว้ามง แฟนคลับชม “คุณพ่อแอนนาหล่อมาก”
- ‘แอนนาเสือ’ พร้อมทีม MUT เดินทางเข้าพบ ‘ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์’ ขอเคล็ดลับชิงมง 3