กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ครม. ได้ผ่านร่างหลักการ พ.ร.ฎ. ปรับลด ภาษีรถประจำปี รถรับจ้าง เช่น แท็กซี่, สามล้อ และมอไซต์วิน ลง 90%
ภาษีรถประจำปี รถรับจ้าง – (17 ส.ค. 2565) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันที่ 16 สิงหาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยให้ลดภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงรวมทั้งก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้น
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโนบายและกำชับให้กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถสาธารณะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งกระทบต่อการใช้บริการรถสาธารณะ ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนประกอบการของรถสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งรถรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ
ดังนั้นกระทรวงคมนาคม และ ขบ. จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยปรับลดภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522
– รถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) น้ำหนักรถ 1,300 กิโลกรัม เดิมจัดเก็บภาษี 685 บาท ลดเหลือ 68.50 บาทต่อคัน
– รถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) น้ำหนักรถ 2,100 กิโลกรัม เดิมจัดเก็บภาษี 1,250 บาทต่อคัน ลดเหลือ 125 บาท
– รถยนต์สามล้อรับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 185 บาทต่อคัน ลดเหลือ 18.5 บาทต่อคัน
– รถจักรยานยนต์รับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 100 บาทต่อคัน ลดเหลือ 10 บาทต่อคัน
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น มอบเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกอบอาชีพขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (29 จังหวัด) การขยายอายุรถแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี การอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางเลือกอื่นแทนเครื่องบันทึกการเดินทาง (GPS) ในรถแท็กซี่ พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มรายได้ โดยให้ติดตั้งสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ และกำหนดให้เรียกเก็บค่าสัมภาระได้ กรณีการให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ