‘บราวนี่กัญชา’ ทำหัวอกแม่ช้ำ ลูกเอาแต่นอน-สะลึมสะลือ จนต้องส่งโรงหมอ
แม่โพสต์เตือน บราวนี่กัญชา อย่าให้อยู่ใกล้มือเด็ก หลังพบอาการลูกผิดปกติ เดินเซ สลึมสลือ เอาแต่นอน ซึมจนผิดสังเหตุต้องส่งหาหมอ ทราบตอนหลังแทบทรุด
วันที่ 3 สิงหาคม 2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 4.1 ได้นำเรื่องราวโพสต์เตือนภัยของคุณแม่ท่านหนึ่งที่ลูกสาวดันเผลอไปกิน บราวนี่กัญชา เข้ไป จนต่อมาเกิดอาการผิดปกติ ต้องรีบนำัวส่งโรงพยบาลรักษากันเป็นการด่วน
เนื้อหาในโพสต์ เจ้าของเรื่อง ระบุ ไม่มีเจตนาโพสต์เพื่อวิจารณ์หรือพาดพิงใคร และไม่ได้อยากจะโทษใครในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่เล่าเพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์กับพ่อแม่หลายๆ คนที่มีลูกได้ตระหนักและระมัดระวังกับสิ่งนี้
วันเกิดเรื่อง คุณแม่เจ้าของเรื่องรับทราข่าวจากคูรครูมา ความว่า ลูกเป็นอะไรไม่ทราบ มีอาการเดินเซ ตัวสั่น เดินไม่ไหวจนครูต้องอุ้มให้มานอน แล้วเช็ดตัวเนื่องจากตัวลุ่มๆ
จากพอเด็กน้อยหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา ปรากฏ ไม่ยอมพูด ไม่เหมือนวันปกติอื่นๆ ที่พูดเก่ง เวลาล่วงเลยผ่านไปถึงเที่ยงวัน อาการขของเด็กยังคงเหมือนเดิม
คุณแม่สงสัยว่าไข้จริงมั้ย จึงตัดสินใจมาดูลูกด้วยตัวเองหลังออกจากที่ทำงาน สิ่งที่พบเห็น คือลูกเอาแต่นอน ปลุกตื่น สะลึมสะลือ แต่ไม่มีไข้พยายามจะตื่นมาตอบ แต่ก็ปิดตาแล้วหลับต่อ คนเป็นแม่ใจไม่ดี ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกจึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาล
ระหว่างอยู่บนรถ แม่เรียกลูกตลอดเวลา ส่วนเด็กน้อยก็ตื่นทุกครั้งที่เรียก แต่ไม่พูด พยายามเรียกให้ตอบคำถาม ก็ตอบแบบเชื่องช้า ไม่มีแรงแม้แต่จะพูดตอบคำถาม ผู้เป็นแม่ได้แต่กอดพร้อมๆ กับเรียกชื่อ และร้องไห้
เมื่อถึงโรงพยาบาลแรกรับปกติดีทุกอย่าง แต่อาการดูซึมๆ ผิดปกติ คุณแม่พยายามบอกให้ทำตามคำสั่ง โดยการยกมือ ยกเท้า ต่างๆ ก็ทำได้ แต่ต้องใช้เวลา
ทั้งนี้ คุณแม่เล่าว่าเมื่อหมอมาดูอาการ พร้อมกับคอลาตี (คุณอาของสามี) ซึ่งให้ข้อมูลว่า ลูกสาวได้กินบราวนี่ที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้าไป
ได้ยินดังนั้นคนเป็นแม่เผยทัยทีว่ารู้สึกโกรธมากในตอนนั้น ได้แต่ร้องไห้ท่ามกลางผู้ป่วยและญาติคนอื่นๆ โดยไม่อายใครกระทั่งเรียกสติตัวเองกลับมา พร้อมฟังแผนการรักษาของหมอ ต้องแอดมิตเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด อาการลูกค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ บ่นหิว อยากกินนม กินขนม แต่ก็ยังคงมีอาการง่วงนอนตลอดเวลา
ปัจจุบัน คุณแม่จ้าของเรื่อง ระบุ ลูกอาการดีขึ้น พูดคุยรู้เรื่องเป็นปกติ อย่างไรก็ตาเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูกของเธอ และครอบครัวไหนๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจ ขอให้มเป็นบทเรียนอีกหนึ่งเรื่อง ที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ก่อนที่ในโพสต์ต้นฉบับจะทิ้งท้ายด้วยข้อความว่า “หรือเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะนโยบาย #กัญชาเสรี ต้องใช่แน่ๆ ก็วนมาที่เรื่องการเมืองอยู่ดีอ่ะเน๊าะ ปล. ใครจะไปคิดล่ะ ว่าอาการที่ลูกเป็น คืออาการของคนที่กำลังเมากัญชา”
อ่านโพสต์ฉบับเต็ม : คลิกที่นี่