เปิดประวัติ “วันสารทจีน” 2566 ประเพณีไหว้บรรพบุรุษ ตำนานพระมู่เหลียน
ประวัติ “วันสารทจีน” ปีนี้ตรงกับวันที่ 30 สิงหาคม 2566 คือวันสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน เปิดประตูวิญญาณ สื่อสารบรรพบุรุษ เล่าตำนาน ห้ามทำอะไรบ้างในวันนี้
30 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เปิดประวัติ “วันสารทจีน” 2566 และตรงตามปฏิทินจีนวันที่ 15 เดือน 7 คือ วันสำหรับครอบครัวชาวจีนที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการเคารพบรรพบุรุษที่เป็นทำเนียมกันมาอย่างยาวนาน และการกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่วงศ์ตระกูล
วันนี้ The Thaiger จะพาทุกคนมาเปิดตำนาน เล่าขาดเรื่องราวเกี่ยวกับวันนี้ พร้อมเผยทริก ควรทำอะไร และห้ามทำอะไรในวันนี้ เช็กรายละเเอียดได้เลยที่นี่ครับ
ประวัติเรื่องเล่า ตำนานวันสารทจีน
สำหรับประวัติน่าสนในใน “วันสารทจีน” (Chinese’s Ghost festival) มีตำนานเรื่องเล่าอยู่หลายรูปแบบ แต่ตำนานที่หลาย ๆ ครอบครัวต่างเล่าขานกันมาอย่างยาวนานนั่นก็คือ มีชายหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า “มู่เหลียน” (พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนา ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปไม่เคยเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์
ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจ คนเป็นแม่ นางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำอาหารเลี้ยงเอง ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวจึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียนแต่หาทราบไม่ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่
การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมาน เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดาก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรก จึงได้รู้ว่ามารดาของตนกำลังอดอยากจึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดและเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดา
ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสมู่เหลียนได้เข้าไปขอพญายมบาล ตนขอรับโทษแทนมารดา แต่ก่อนที่จะถูกลงโทษ พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน
โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้นและพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยาก จากนั้น มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดจึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการเซ่นไหว้ นำอาหารทั้งคาวหวาน และกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก
มีนัยว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตนนั่นเอง ดังนั้นแล้ว วันสาร์ทจีน จึงมีทั้งการไหว้ผีบรรพบุรุษ เพื่ออุทิศบุญให้ท่าน และไหว้ผีไม่มีญาติอีกด้วยนั่นเอง
ของไหว้วันสารทจีน 2566 มีอะไรบ้าง
การไหว้ในเทศกาลสารทจีนแบ่งออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
1. ชุดสำหรับไหว้เจ้าที่
จะไหว้ในตอนเช้า มีอาหารคาวหวานกุยช่าย ส่วนขนมไหว้พิเศษที่ต้องมีซึ่งเป็นประเพณีของสารทจีนคือขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลาง
เนื่องจากชาวจีนมีความเชื่อที่ว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล นอกจากนั้นก็มีผลไม้ น้ำชา หรือเหล้าจีน และกระดาษเงินกระดาษทอง
2. ชุดสำหรับไหว้บรรพบุรุษ
คล้ายของไหว้เจ้าที่พร้อมด้วยกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ ตามธรรมเนียมต้องมีน้ำแกงหรือขนมน้ำใส ๆ วางข้างชามข้าวสวย และน้ำชาจัดชุดตามจำนวนของบรรพบุรุษ ขาดไม่ได้ก็คือขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้และกระดาษเงินกระดาษทอง
3. ชุดสำหรับไหว้สัมภเวสี
วิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณไม่มีญาติ เรียกว่า สัมภเวสี หรือ ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการสะท้อนความสุภาพและให้เกียรติของคนจีน เรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดีของเรา
การไหว้จะไหว้นอกบ้านของไหว้จะมีทั้งของคาวหวานและผลไม้ตามต้องการและที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง เผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทองจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันสำหรับเซ่นไหว้.
ข้อห้าม วันสารทจีน 2566
วันสารทจีน ในปีตรงกับวันที่ 30 สิงหาคม 2566 นี้ก็มีข้อห้าม สิ่งที่ไม่ควรทำเช่นเดียวกับ วันตรุษจีน เนื่องจากมีความเชื่อว่า บางการกระทำไม่เหมาะสมจะทำในช่วงเลานั้น เช่น การห้ามเดินทางไกล หรือห้ามแต่งงานจัดงานมงคล เพราะเดือนนี้ เชื่อว่าเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิด จึงไม่ควรจัดงานรื่นเริง หรือการเดินทางที่อาจก่ออันตราย
สืบเนื่องจากเป็นเดือนปล่อยผี ทำให้นอกจากนี้ยังเป็นเดือนที่ไม่ควรเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ หรือโยกย้ายงานด้วยนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia