เปิดประวัติ “ดารุมะ” (Daruma) ตุ๊กตา ที่ดันมีหน้าตาคล้ายกับพระอาจารย์ตั๊กม้อ หลังจากที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์มาระยะหนึ่งจากกรณีดราม่าในอินเทอร์เน็ต ก็ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยได้ว่า เจ้าตุ๊กตาไม้ที่คล้ายตุ๊กตาล้มลุกตัวสีแดงตัวนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงมีการออกแบบดีไซน์ดูหน้าตาน่ากลัว แถมยังมีแต่ตาขาวไม่มีตาดำอีกด้วย! วันนี้ The Thaiger จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตุ๊กตาดารุมะ ตุ๊กตาแห่งความหวังประจำชาติของญี่ปุ่น จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไปดูพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก ดารุมะ (Daruma) ตุ๊กตาประจำชาติ ที่เป็นเครื่องรางยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น
ประวัติ ‘ดารุมะ’ (Daruma) ตุ๊กตาสีแดงหน้าดุ!
ตุ๊กตาไม้ล้มลุกของชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “ดารุมะ” นั้นมีต้นแบบมาจาก “พระอาจารย์ตั๊กม้อ” ซึ่งว่า “ดารุมะ” ในภาษาญี่ปุ่น โดยลักษณะของตุ๊กตาตัวนี้คือ จะมีลำตัวสีแดง มีหนวดและเครา คิ้วหนา เป็นลักษณะทรงกลม ไม่มีแขนและขา ทำจากไม้หรือกระดาษวาชิ ด้านในของตุ๊กตามีลักษณะกลวงโบ๋ แต่จะมีการถ่วงน้ำหนักไว้ที่ก้น นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของตุ๊กตาดารุมะก็คือ “ไม่มีลูกตาดำ” บริเวณใต้คางจะมีการเขียนคำอวยพรเอาไว้ด้วย
อย่างที่บอกว่าแต่เดิมแล้วตุ๊กตาดารุมะจะไม่มีลูกตาดำ แต่กล่าวกันว่าในยุคสมัยเอโดะที่ไข้ทรพิษเกิดการระบาด ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลร้ายต่อดวงตา ทำให้เกิดการลูกตาดำลงไปในตาของตุ๊กตาดารุมะ เพื่อเป็นการขอพระให้พ้นภัยจากโรคร้ายดังกล่าว อีกทั้งที่นิยมทาสีแดงนั้นก็เพราะมีความเชื่อว่าสีแดงจะช่วยป้องกันภัยร้ายจากสิ่งที่ไม่ดีได้
นอกจากนี้ในยุคเอโดะยังมีการเปรียบเทียบส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าของตุ๊กตาดารุมะไว้อีกด้วยว่า เป็นเหมือนดั่งต้นไม้มงคลทำให้ชีวิตดีและมีความสุข โดยจะเปรียบส่วนใบหน้าและผมหรือเคราะของตุ๊กตาดารุมะว่ามีลักษณะคล้ายต้นสน รอบดวงหน้าเป็นไม้ไผ่ และจมูกเป็นต้นพลัม แต่ในปัจจุบันก็มีการเปรียบเทียบไปอีกแบบหนึ่ง โดยขนคิ้วจะเปรียบเป็นนกกระเรียน และหนวดเคราจะเปรียบเป็นเต่า ซึ่งก็มีความหมายเกี่ยวกับชีวิตไม่ต่างกัน
วิธีการขอพรกับตุ๊กตา ‘ดารุมะ’ (Daruma) ให้สัมฤทธิผล
สำหรับการขอพรกับตุ๊กตาดารุมะนั้น ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าต้องวาดดวงตาข้างซ้ายให้ตุ๊กตาก่อน (อย่าลืมหันหน้าตุ๊กตาออกให้เหมือนเราด้วย) แล้วจึงอธิษฐานถึงสิ่งที่ต้องการ หากสมหวังในสิ่งที่อธิษฐาน จึงค่อยกลับมาวาดตาอีกข้างเพิ่มเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม การวาดดวงตาให้ตุ๊กตาดารุมะเพื่อขอพรนั้นก็ไม่ได้มีข้อบังคับตายตัวเสมอไปว่าต้องวาดตาข้างใดก่อน
แต่หากสิ่งที่อธิษฐานไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่จำเป็นต้องกลับมาวาดตาอีกข้างก็ได้ นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นยังถือคติว่าหากเวลาผ่านไป 1 ปี ต้องนำตุ๊กตาดารุมะไปคืนวัดหรือศาลเจ้าที่เอามา เพราะมีความเชื่อตุ๊กตาดารุมะเป็นเครื่องรางที่คอยซับแรงกระแทกจากสิ่งไม่ดีที่จะพุ่งเข้าหาเรา ซึ่งบางคนก็อาจจะวาดดวงตาอีกข้างหนึ่งให้กับตุ๊กตาดารุมะไว้เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูแลเรามาตลอดระยะเวลา 1 ปีด้วยก็ได้
และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของประวัติความเป็นของเจ้าตุ๊กตาสีแดงหน้าดุ “ดารุมะ” (Daruma) ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้ดุร้ายแต่กลับให้โชคดีอีกต่างหาก ถ้าใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือได้ดูซีรีส์ของทางฝั่งญี่ปุ่นมาบ้างก็อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าตุ๊กตาตัวสีแดงเคราเฟิ้มตัวนี้อยู่บ้าง นอกจากนี้หากสังเกตให้ดีช่วงใกล้วันเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่น พรรคการเมืองใดที่ชนะการเลือกตั้งก็จะทำการเติมตาให้เจ้าตุ๊กตาตัวนี้ด้วย ในครั้งหน้า The Thaiger จะมีเรื่องราวอะไรดี ๆ มาฝากอีกบ้าง อย่าติดตามกันด้วยนะคะ