ตร.สั่งล่าตัวคนร้ายเหตุ ฆ่าคนไทยในไต้หวัน หลังคนร้ายหนีกลับไทย
ตำรวจล่าตัวคนร้ายก่อเหตุเหี้ยม ฆ่าคนไทยในไต้หวัน ยัดท้ายรถ หลังคนร้ายหนีกลับไทย ชี้กำลังประสานงาน เนื่องจาก ไทยไม่มีสนธิสัญญาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ออกมากล่าวถึงกรณี ฆ่าสามีภรรยาคนไทยหมกท้ายรถที่ไต้หวัน ว่าขณะนี้ตนได้ทราบเรื่องนี้และได้สรั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสืบสวน พร้อมประสานไปยังตำรวจไต้หวันเพื่อขอประสานข้อมูลต่างๆ
นอกจากนี้ยังได้ระบุว่า ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก 3.บก.ป.และ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกกก.4.บก.ป. นำกำลังเข้าตรวจสอบ เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายที่ทราบว่าหนีกลับมาประเทศไทยแล้ว แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีที่เกิดนอกราชอาณาจักร รวมทั้งประเทศไทยก็ไม่มีสนธิสัญญาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน
รวมทั้งตำรวจไต้หวันเอง ก็ยังไม่ได้ประสานเรื่องฆ่าสามีภรรยาชาวไทยในไต้หวันมาให้กับตำรวจไทย ขณะนี้จึงรวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการได้ตลอดเวลาด้วย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในย่านจงลี่ของไต้หวัน เปิดเผย ถึงความคืบหน้า เหตุฆาตกรรม สามี-ภรรยาชาวไทย หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา (10 มิ.ย.65) เวลา 09.00 น. ทางสถานีตำรวจฯ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านถึงกลิ่นเหม็นเน่า โชยมาจากลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน
เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบมีน้ำเหลืองไหล ออกจากท้ายรถสปอร์ตเอสยูวีหรูสีขาว ยี่ห้อ BMW X4 ตรวจสอบภายในท้ายของรถยนต์ก็เจอศพของชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน
โดยผู้ตายเป็นสามีภรรยากัน ฝ่ายหญิงเป็นชาวไทยที่ได้สัญชาติไต้หวันแล้ว เคยทำงานเป็นล่ามมาก่อน เป็นที่รู้จักกันในนาม “ล่ามมี่” และตั้งครรภ์ทารกแฝดสองได้ 5 เดือน ขณะทีสามีเป็นสัญชาติไทยมาจากอุบลราชธานี ชื่อนายประเสริฐ แรงงานไทยเรียกกันว่า “เฮียมาร์ค”
ทั้งนี้ สาเหตุของการเสียชีวิต ตำรวจไต้หวัน สันนิษฐานว่า เกิดความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ จนเป็นเหตุนำไปสู่คดีฆาตกรรมดังกล่าว โดยผู้ต้องสงสัยตอนนี้ทราบตัวแล้วเป็นคนไทยที่ได้รับสัญชาติไต้หวันแล้วเช่นกัน และหลังเกิดเหตุก็เดินทางกลับประเทศไทยแล้วด้วยสายการบิน STARLUX เที่ยวบิน JX741
โดย กรมสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจไต้หวันได้ประสานหน่วยงานไทยช่วยติดตามจับกุม เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไต้หวันต่อไป