บันเทิง

บอย โกสิยพงษ์ เล่าอุทาหรณ์ เจ็บหน้าอกนิดเดียว สุดท้ายพบเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ ต้องผ่าตัดด่วน

บอย โกสิยพงษ์ เล่าอุทาหรณ์ เจ็บหน้าอกนิดเดียว สุดท้ายพบ เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ 80% ต้องผ่าตัดสวนหัวใจด่วน บอย เตือน อย่าประมาทเรื่องสุขภาพ

วันนี้ 12 มิ.ย. 65 บอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้เล่าประสบการณ์สุขภาพ ผ่านเฟซบุ๊ก Boyd Kosiyabong เป็นอุทาหรณ์ที่ไม่ควรมองข้าม จากการที่บอยรู้สึกเจ็บหน้าอกเพียงเล็กน้อยประมาณ 1 อาทิตย์ และได้ไปหาหมอตรวจตามคำร้องขอของลูกและภรรยา

Advertisements

เมื่อไปตรวจ จากที่ บอย โกสิยพงษ์ คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก เนื่องจากตรวจผลเลือดก็ออกมาดี แต่ปรากฎว่า คุณหมอได้วินิจฉัยพบว่า เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ 80% ต้องพบอาจารย์หมอ เพื่อผ่าตัดเล็กสวนหัวใจในวันเดียวกันนั้นเลย เพราะหากมีอะไรไปอุดจะอันตรายมาก

หลังผ่าตัดเสร็จ บอย ได้ขอบคุณพระเจ้าและเจ้าหน้าที่หมอพยาบาลที่ได้ดูแลตนอย่าวดีมาก ๆ จากเหตุการณ์นี้ทำให้คิดได้ว่าควรทำประกันสุขภาพ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล

รายละเอียดในโพสต์มีดังนี้

“เมื่อพฤหัสที่ผ่านมา ผมเข้าไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล เนื่องจากรู้สึกเจ็บหน้าอกแบบจุกๆ มาสักอาทิตย์นึงแล้ว(แต่ถ้าจะให้คะแนนความเจ็บน่าจะแค่ราว 2/10เท่านั้นเอง) แต่ไม่ได้มากมายอะไร

ตอนไปพบก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอโรคร้ายแรงอะไรเลย เพียงแต่อดทนต่อเสียงรบเร้าของลูกและภรรยา(ที่เขาห่วง)ไม่ได้

Advertisements

พอบอกอาการคุณหมอ คุณหมอก็วินิฉัยว่าอาจจะมีเส้นเลือดตีบจึง ให้ไปฉีดสีเพื่อทำเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ ซึ่งพูดตามตรง ผมก็ยังคิดเหมือนเดิมว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอก เพราะที่ผ่านมา ผมได้ออกกำลังกายทำสวน และทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงทำ แทบทุกอย่างที่ควรจะทำ ซึ่งผลการตรวจเลือดทุกอย่างของผมดีมาก ถึงขนาดที่ว่าคุณหมอประจำ ชมว่าน่าอิจฉาผลเลือดนี้จัง

หลังทำเอ็กซ์เรย์ เสร็จผมก็เดินกลับบ้านไปรอผลอย่างชิลล์ๆเพราะมั่นใจมากว่าไม่มีอะไรแน่นอน ยังนึกในใจว่าไม่น่าบอกภรรยาและลูกว่าเจ็บหน้าอกเลย จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาตรวจ

ตอนเดินกลับมาที่โรงพยาบาลปรากฏว่ามีอาการจุกๆเล็กน้อย พอไปถึงก็พบกับคุณหมอที่ฉีดสีเอ็กซ์เรย์ให้ และแกก็ถามว่า ได้พบคุณหมอเจ้าของไข้แล้วใช่ไหม ทราบผลหรือยัง ผมตอบว่ายังครับ แต่ไม่เป็นอะไรอยู่แล้วเพราะผลเลือดผมดีสม่ำเสมอมาก คุณหมอบอกว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ2เส้นนะครับเส้นหนึ่งเป็นเส้นหลัก อีกเส้นนึงเป็นเส้นแขนง ผมซึ่งยังมีความมั่นใจมากอยู่ก็บอกแกว่า คงไม่ตีบมากใช่ไหมฮะคุณหมอ? แต่คำตอบที่ผมได้รับคือตรงกันข้าม คุณหมอบอกตีบไปประมาณ 75% จะให้ชัวร์ต้องใส่สายเข้าไปฉีดสีดู

พอผมไปพบคุณหมอหัวใจเจ้าของไข้ ผมก็ยังไม่มีความรู้สึกว่าน่ากลัวแต่อย่างไรเหมือนเดิม

ผมถามแกว่าเดี๋ยวเดือนกันยาพอผมกลับมาจากทำธุระที่ต่างประเทศแล้วค่อยมาทำยังทันใช่ไหม แกตอบว่าไม่น่ารอนานขนาดนั้นนะ เดี๋ยวแกส่งข้อมูลให้อาจารย์ที่ผ่าตัดดูอีกที เผื่อว่าจะมาปรึกษาวันอาทิตย์แล้วทำให้เสร็จภายในอาทิตย์หน้าเลย

ปรากฏว่าหลังจากที่แกส่งรายงานให้อาจารย์หมอแล้ว แกบอกว่ารอพบอาจารย์หมอได้ไหมเดี๋ยวอาจารย์รีบเข้ามาเลย ผมบอกว่าได้ครับ แบบเหงื่อซึมนิดๆ

พออาจารย์หมอมาถึงแกบอกว่าจัดการคืนนี้เลยเถอะ!!! ไม่ต้องรอแล้ว

ปรากฏว่าคืนนั้นผมเลยต้องทำการสวนเส้นเลือดหัวใจเพื่อทำบอลลูน เพราะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจนั้นตีบไป 80% แล้ว
คุณหมอบอกว่า หากระหว่างนี้มีอะไรไปอุดนี่อันตรายมากๆ เลย

ผมพยายามต่อรองหลายอย่างมากเพราะไม่อยากทำ เนื่องจากยังไม่ได้เตรียมพร้อมและยังมีนัดประชุมเรื่องงานคอนเสิร์ทปลายปีอีก

แต่อาจารย์หมอพูดแบบถอนหายใจว่า เมื่อท่านเตือนมาให้ทำแล้วก็ทำเถิดครับ
ผมเลยตอบรับคำอย่างว่าง่ายที่สุด เพราะผมคิดว่าคำว่าท่านนี่น่าจะเป็นคำเตือนจากพระเจ้าแน่ๆ

คิดได้เท่านั้นแหละฮะ ใจหายแว๊บเลย

เพราะผมเป็นคนที่กลัวเข็มฉีดยากลัวมีดกลัวการผ่าตัดมากๆ ยิ่งดูเรื่อง the good doctor ยิ่งทำให้ผมสยองกับการเข้าห้องผ่าตัด แถมการทำบอลลูนนี้คุณหมอบอกว่าไม่มีการวางยา มีแค่ยาชาเท่านั้น เพราะนี่เป็นแค่การผ่าตัดเล็กๆอีกด้วย

ผมขออนุญาตข้ามเรื่องระหว่างการสวนหัวใจไปเลยดีกว่ามันมีรายละเอียดที่อาจทำลายขวัญของบางท่านที่ขวัญอ่อน จนอาจจะพาลกลัวไม่กล้าทำเอาดื้อๆได้ (แต่ก็ควรทำอยู่ดี) ทั้งที่จริงๆแล้วเมื่อคิดกลับไปมันก็ไม่น่ากลัวและเจ็บเท่าที่ผมจินตนาการเอาไว้นะฮะ เพียงแต่ระหว่างผ่าตัด เขามีการพูดคุยกันด้วยศัพท์เฉพาะแพทย์และพยาบาลเท่านั้นจึงจะเข้าใจ ซึ่งมันเหมือนฉากผ่าตัดในหนังเรื่อง the good doctor เลย

คุณหมอและคุณพยาบาลทุกท่านเมตตาผมมากคอยให้กำลังใจผมตลอดตั้งแต่เริ่มจนจบและทำทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและเรียบร้อยมากๆ

ตอนทำเสร็จผมได้มีโอกาสเห็นเส้นเลือดที่ตีบของผมด้วยครับ มันเหลือความไม่ตีบอยู่น้อยเหมือนกัน ในใจคิดว่าเกิดมันไปตีบหรือมีอะไรไปอุดตอนอยู่ต่างประเทศนี่คงยุ่งแน่ๆเลย ขอบคุณพระเจ้าและคุณหมอทุกท่านและทีมพยาบาลทุกท่านที่ดูแลผมอย่างดีมากๆนะครับ

ที่เขียนมาอย่างยืดยาววันนี้ก็อยากจะบันทึกไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าประมาทกับเรื่องสุขภาพนะครับ บางทีเรานึกว่ามันไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก แต่ถ้ามีอะไรเตือนหรือร่างกายพยายามจะบอกอะไรเรา ฟังเขาบ้างก็ดีนะครับ

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดว่าตัวผมเองน่าจะทำประกันสุขภาพเอาไว้จะได้ไม่ต้องกังวลใจตอนจ่ายค่ารักษา หากมีบริษัทประกันสุขภาพเจ้าไหนที่รับลูกค้าที่เคยเป็นมาหลายโรคแล้ว (แต่ผลเลือดดีมาก อย่างผมขอเชิญติดต่อมาได้นะครับ ผมอยากเป็นลูกค้าฮะ)

สุดท้ายนี้ขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยนะครับ

บอย โกสิยพงษ์ ”

คลิกดูโพสต์ต้นฉบับ

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button