เช็คเลย! รถยนต์ 8 ยี่ห้อ ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย เปลี่ยนฟรี มียี่ห้อไหนบ้าง
เช็คได้ที่นี่ รถยนต์ 8 ยี่ห้อ ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งพบว่าในประเทศมีรถยนต์เสี่ยงถึง 6.8 แสนคัน!
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมากในตอนนี้ เมื่อเฟซบุ๊กสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยเกี่ยวกับเรื่องถุงลมนิรภัย ภัยเงียบที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายแก่ชีวิตได้ โดยเป็นการแถลงข่าวไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
อัปเดต รถยนต์ 8 ยี่ห้อ ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย มีรถยนต์ยี่ห้อไหนบ้าง
ซึ่งทางสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ระบุว่าถุงลมนิรภัยยี่ห้อ “ทาคาตะ” เป็นถุงลมนิรภัยที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนทันที โดยในปัจจุบันพบว่ามีรถยนต์ในประเทศไทยมากถึง 680,000 คัน ที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยเป็นยี่ห้ออื่น นับว่าเสี่ยงต่อการใช้งานของผู้ขับขี่ยานพาหนะอย่างมาก
โดยในแถลงการณ์ได้ระบุไว้ว่า หลายประเทศทั่วโลกมีการเรียกคืนรถยนต์เกือบ 100 ล้านคัน เนื่องจากกรณีของถุงลมนิรภัยยี่ห้อดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา เนื่องจากการใช้ถุงลมนิรภัยยี่ห้อทาคาตะจะทำให้เกิดความเสี่ยงแก่ชีวิตแม้ในกรณีที่เกิดอุบัติไม่ร้ายแรงก็ตาม
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ถุงลมนิรภัยยี่ห้อดังกล่าวเป็นอันตรายนั้น เกิดจากการที่เศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของถุงลมนิรภัยจะแตกและกระเด็นด้วยความเร็วสูงเมื่อรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ และพุ่งเข้าใส่คนขับ ซึ่งอาจทำให้เศษชิ้นส่วนเหล่านั้นทะลุมาถึงกระดูกสันหลังของผู้ใช้รถยนต์ได้
สำหรับประเทศไทยได้มีการเรียกคืนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งในปี พ.ศ. 2561 ทางสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ารับบริการเปลี่ยนชิ้นส่วนถุงลมนิรภัย ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยรถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยมีทั้ง 8 ยี่ห้อ ดังนี้
- TOYOTA
- HONDA
- FORD
- MAZDA
- NISSAN
- BMW
- MITSUBISHI
- CHEVROLET
วิธีเช็ครถยนต์ ยี่ห้อไหนบ้าง ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย
สามารถเช็ก รถถยนต์ ยี่ห้อไหนบ้าง ต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัย ได้ทั้ง 2 ทาง โดยทางออนไลน์สามารถตรวจสอบได้ที่ >>เว็บไซต์เช็กแอร์แบ็ก<< ทำการเลือกยี่ห้อรถยนต์ แล้วกรอกข้อมูลตัวเลขถังของรถยนต์เพื่อค้นหา หากพบว่ารถยนต์ของเราเข้าข่าย สามารถติดต่อนัดหมายเข้าเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ที่เคยใช้บริการอยู่ได้เลย
หรือหากใครไม่สะดวกในการตรวจสอบแบบออนไลน์ ก็สามารถนำรถยนต์ไปเช็กได้ที่ศูนย์บริการของแต่ละยี่ห้อ หรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านระบบ Call Center หรือโทรศัพท์สายด่วน 1584 เพื่อตรวจสอบหรือสอบถามข้อมูล
นับว่าเป็นภัยเงียบที่อันตรายมาก ๆ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ รู้แบบนี้ก็อย่าลืมตรวจสอบว่ารถของคุณจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนยี่ห้อถุงลมนิรภัยหรือไม่ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : เฟซบุ๊ก สภาองค์กรของผู้บริโภค