‘ซาร่า คาซิงกินี’ แจงปมถูกคนใกล้ตัวหาว่า ละเลยลูก เจ้าตัวชี้ เรื่องลูกมาเป็นอันดับ 1 แต่เราก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์ ลูกก็ต้องเลี้ยงเงินก็ต้องหา!
จากกรณีข่าวของคุณแม่ลูกสอง ‘ซาร่า คาซิงกินี‘ ที่โพสต์ข้อความระบายความในใจผ่านทางบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Sarah Casinghini‘ หลังถูกคนใกล้ตัวหาว่าตนเอง ละเลยลูก พร้อมย้ำสถานะ แม่เลี้ยงเดี่ยว ล่าสุด ทางคุณแม่คนสวยก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า
โพสต์ตัดพ้อเพราะโดนชาวเน็ตว่าละเลยลูก ?
“ไม่ใช่ชาวเน็ตค่ะ ถ้าเป็นชาวเน็ตไม่เอามาเป็นประเด็น เพราะคนร้อยพ่อพันแม่ เขาอาจจะไม่รู้จักเราจริง ๆ อาจจะตัดสินเราจากข่าว อันนี้ซาร่าไม่ได้เอามาเป็นสาระสำคัญ ถ้าไม่ได้หยาบคายมาก แต่ถ้าพาดพิงถึงบุพการีหรือลูกเราอันนี้ไม่โอเค แต่ถ้าว่าเรา เรารับมือกับมันได้
ส่วนที่โพสต์เป็นคำพูดจากเพื่อน ตอนได้ฟังก็เลยรู้สึกว่าก็มีอารมณ์ ว่าเฮ้ย…เขาเป็นเพื่อนเรา ทำไมพูดกับเราแบบนี้ ก็มีทะเลาะกับเพื่อนนิดหนึ่ง แต่ก็เคลียร์แล้ว ตอนเขาว่าเรา เราก็ขึ้นปุ๊บ เขาก็ลง แล้วเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ว่าเรา แต่เราบอกว่าเขาว่าเรา”
กระทบจิตใจถึงขั้นไหน ?
“เหมือนกับวันนั้นเขาไปงานวันเกิด เขาดื่มมาด้วย เขาก็มาพูดกับเราว่าเราละเลยลูก ก็เลยถามว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น เขาบอกว่าเขาเป็นห่วงเรา ว่าคนภายนอกมาเห็นเราภายในไม่กี่วินาที เหมือนที่ตัวเขาเห็นก็จะตัดสินเราภายในไม่กี่นาที ถ้าเหตุการณ์นั้น มีคนอื่นมองเข้ามาเขาอาจจะมองว่าเราละเลยลูก แต่ตอนนั้นเราฟังแล้วไม่โอเค ทำไมถึงคิดแบบนั้น
ซึ่งประเด็นคือเราอยู่บนโต๊ะอาหารกัน มีน้องแม็กซ์เวลอยู่ด้วย แล้วเขาบอกให้เราอ่านเมนูอาหารให้หน่อย เขาอ่านไม่ได้ แค่นั้นแหละ เพื่อนคนนั้นก็ว่าเรา ซึ่งเราก็บอกไปว่าเราไม่ได้แคร์คนอื่น ยังไงคนอื่นก็ตัดสินจากเราไม่กี่วินาที แต่นี่เป็นเพื่อนเราไง ถามว่าคนนี้สนิทกันไหม สนิทกัน ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ว่าเรา เขาแค่มองว่าคนอื่นจะมาว่าเรา แต่เราฟังแล้วไม่สบอารมณ์
คือเราเป็นแม่ เวลาเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็จะโทษแม่ ก็เป็นปกติเนอะ แต่เรารู้สึกว่าแม่ไม่ใช่ยอดมนุษย์ ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ เราก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีชีวิตจิตใจ แล้วเราทำหน้าที่เยอะมากในหนึ่งวัน ลูกก็ต้องเลี้ยง งานก็ต้องทำ เงินก็ต้องหา เราก็พูดกับเพื่อนไปตรงๆ ว่ายังจะว่าเราอีกเหรอ ด้วยวัยแม็กซ์เวลไม่ใช่วัยที่จะอ่านหนังสือได้ เขาเพิ่งเรียนการอ่านได้เป็นคำ ๆ ส่วนเมนูอาหารเป็นประโยคยาว เด็กเขาอ่านไม่ได้ทุกคำเขาก็เลยจะให้แม่อ่านว่ามีเมนูอะไรบ้าง
คือน้องไม่ได้พัฒนาการช้า หรือมีปัญหา ถ้ามีปัญหาครูเขาจะแจ้ง หรือไปพบหมอก็จะแจ้งว่าน้องไม่ยอมเขียนไม่ยอมอ่าน แต่ลูกเราปกติ ดังนั้นคุณจะมาพูดหรือตัดสินเราภายใน 5 วินาที หรือได้รู้ว่าน้องกำลังเรียนอะไรอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นพูดเราจะไม่แคร์ แต่พอเป็นเพื่อนก็เลยไม่โอเค ก็อธิบายกัน แต่สุดท้ายก็ขอโทษเรา สุดท้ายเขาก็รู้ว่าเราทุ่มเทกับลูกแค่ไหน”
เคลียร์ใจกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ?
“ก็เคลียร์ แต่ก็โกรธ (หัวเราะ) ระหว่างคุยกันไปก็พิมพ์ในเฟซบุ๊กไปทีเดียวเลย เขาก็ถามว่าทำอะไรดังกึกๆๆ ก็บอกพิมพ์อยู่โกรธมาก (หัวเราะ) เหมือนเราอยากระบาย”
กับลูกถือเป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่ง ?
“ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเราเลย เราไปไหนลูกจะติดตัวเราเลย ถ้าลูกไม่มีเรียน ถ้าคนติดตามจะรู้ ว่าเราไปไหนมีลูกไปด้วยทุกที่”
หลายคนยังไม่มูฟออนเรื่องเก่าของเรา ?
“มีค่ะ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เราทำคือไม่ใช่เรื่องไม่ดี เรารู้ว่าแต่ละวันมีจุดมุ่งหมายอะไร เราทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูกเราทั้งคู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตแล้วไม่ได้ไปเบียดเบียนคนอื่น หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ไม่ได้กลัวว่าทำแบบนี้แล้วคนจะด่า ที่ฉันทำแบบนี้มันดีกับตัวเราและลูก ส่วนใครจะว่าเป็นเรื่องของเขาแล้ว ไม่เก็บมาเป็นสาระแล้ว
แต่จะรู้สึกถ้าเป็นคนใกล้ตัวพูด ก็จะรู้สึกว่าไม่รู้จักเราเหรอ เธอรู้จักฉันนี่ อันนี้ไม่น่ามาว่าฉันนะ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าเป็นคนที่เรารัก เป็นเพื่อน ครอบครัวถ้าพูดเราจะรู้สึกมีอารมณ์อ่อนไหว แต่ถ้าเป็นคนอื่นปล่อยผ่าน แต่ถ้ารุนแรงถึงลูกถึงพ่อแม่ก็จะไม่โอเคแล้ว ไม่ปล่อย ฟ้องเลย”