ข่าวข่าวภูมิภาค

เศร้า! เจ้าสาวถูกเท ในวันแต่งงาน ต้องเข้าวิวาห์เพียงลำพัง

หญิงคนหนึ่งออกมาร้องทุกข์ หลังจากที่เธอซึ่งเป็น เจ้าสาวถูกเท ในวันแต่งงาน ทำให้เธอต้องเข้าพิธีวิวาห์เพียงลำพัง เจ้าสาววอนฝ่ายชายมาชดใช้ค่าใช้จ่ายด้วย

กลายเป็นเรื่องราวสุดเจ็บปวด หลังจากที่ผู้สื่อข่าวในจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับการร้องทุกข์จาก น.ส.น้ำทิพย์ อายุ 40 ที่ถูกชายที่อ้างว่าเป็นทหาร ยศจ่าสิบเอก ได้ตกลงแต่งงานกับตน แต่ผลปรากฏว่าในวันจริงนั้น เจ้าบ่าวไม่ร่วมพิธี ติดต่อไม่ได้

Advertisements

โดยเจ้าสาวถูกเทเล่าว่า จากการสอบถาม น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ตนกับแฟนหนุ่มที่อ้างตัวเป็นจ่าสิบเอก ได้คบหาดูใจตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 โดยตลอดเวลาที่คบกัน เขาได้บอกว่าเป็นทหารยศจ่าสิบเอก และยังอ้างว่าเป็นบอดี้การ์ดให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลนาดี จ.ปราจีนบุรี

ด้วยความบุคลิกการแต่งกายและการพูดจาจึงเชื่อแฟนหนุ่ม ไม่ได้สอบถามเพิ่มเติมตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ชายคนดังกล่าวเป็นคนที่นิสัยดีเสมอต้นเสมอปลายเข้ากับคนที่บ้านพ่อแม่พี่น้องได้ดี โดยจะคอยทำอาหารกับข้าวภายในบ้านและดูแลทุกอย่างแทบจะทุกวัน

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายชายได้มาพูดคุยบอกว่าอยากจะขอแต่งงาน แต่เนื่องจากตนเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงบอกกับฝ่ายชายว่าไม่ต้องจัดงานใหญ่ก็ได้ แต่ฝ่ายชายบอกว่า อยากได้งานใหญ่นิดนึง เพราะเป็นทหาร และยังเป็นบอดี้การ์ดของนักการเมืองท้องถิ่น และมีบุคคลที่รู้จักใหญ่โตอีกหลายคน จึงตามใจแฟนโดยไม่ได้ห้ามอะไร

หลังจากนั้นแฟนก็ได้คุยกับพ่อแม่ โดยเรียกค่าสินสอดเป็นเงิน 200,000 บาท และทองคำหนัก 3 บาท เบื้องต้น ทางแฟนรับปากว่าไหวและจะหาเงินมาทันในงานวันแต่งแน่นอน เดิมทีกำหนดงานไว้วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ถ้าว่าเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 จึงไม่สามารถจัดงานได้ จึงได้เลยมาเป็นวันที่ 1 พ.ค. โดยที่ฝ่ายชายเป็นคนดำเนินการเรื่อง การจัดดอกไม้จัดซุ้มอาหารดนตรีเครื่องดื่ม ด้วยตนเอง

พอถึงงานวันแต่งวันที่ 1 พ.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ฝ่ายชายได้เก็บกระเป๋า แล้วบอกว่าจะไปนอนกับแม่ และญาติของตน ซึ่งได้มาจองรีสอร์ตไว้ใกล้เคียงกับบ้านของต้น ส่วนตนนั้นต้องแต่งหน้าต่อจึง มอบเงินให้ฝ่ายชายจำนวน 20,000 บาท เพื่อนำเป็นค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ในระหว่างงาน

Advertisements

หลังจากนั้นตนก็แต่งตัวแต่งหน้าจนถึงเวลาประมาณ 06.00 น. กระทั่งหลานชายมาบอกว่าน้ำแข็งในงานมาลงแล้วจะต้องจ่ายเงินสดเขา จึงพยายามโทรหาแฟนว่าให้นำเงินมาจ่าย และมาแต่งหน้าแต่งตัวเพราะว่าอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จะมีพิธีสงฆ์ ฝ่ายชายจึงรับปากว่ากำลังมา

และเมื่อถึงเวลาประมาณ 07.00 น. ต้องเข้าสู่พิธีสงฆ์ ตนจึงได้โทรหาฝ่ายชายอีกรอบ แต่ได้คำตอบมาว่า ตอนนี้มีปากเสียงเรื่องเงินสินสอดกับแม่ตนอยู่ จะรีบเข้ามาให้ทันพิธี โดยหลังจากนั้นก็โทรติดต่อแฟนหนุ่มไม่ได้อีกเลย จึงคิดได้ทันทีว่าฝ่ายชายได้หนีการแต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตอนนั้นรู้สึกช็อก และเสียใจมาก แต่เนื่องด้วยทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้วจึงแข็งใจออกมาทำพิธี โดยการตักบาตรเพียงคนเดียว ทำพิธีทางสงฆ์เพียงคนเดียว และต้อนรับแขกเพื่อให้งานผ่านพ้นไปด้วยดี

แม้งานจะจัดเสร็จไปโดยไร้เจ้าบ่าว แต่ที่สำคัญคือตอนนี้ตนและครอบครัวเป็นหนี้เกือบ 300,000 บาท เป็นเงินที่นำมาใช้จัดงานทั้งหมด และที่มาร้องทุกข์ผู้สื่อข่าวแม้เวลาจะล่วงเลยมา 2-3 วันแล้วก็ยังไร้เงาเจ้าบ่าวมารับผิดชอบ

ซึ่งเธอก็พยายามติดต่อไปยังแฟนของตน ก็ยังติดต่อไม่ได้ทนจึงได้ปรึกษากับครอบครัวและนำหลักฐานทั้งหมด เข้าแจ้งความบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ ให้ตามหาฝ่ายชายให้มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในงานทั้งหมดด้วย

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button