บสย. เผย ไตรมาสที่ 1 / 2565 ค้ำประกันสินเชื่อ ไป 4.8 หมื่นล้านบาท
บสย. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 / 2565 โดยสามารถอนุมัติวงเงิน ค้ำประกันสินเชื่อ ไปได้เป็นจำนวนเงิน 4.8 หมื่นล้านบาท
(28 เม.ย. 2565) นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผย ผลดำเนินงาน บสย. ไตรมาส 1/2565 (1 ม.ค. – 31 มี.ค.) บรรลุเป้าหมายช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ได้กว่า 40,593 ราย อนุมัติวงเงิน ค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 48,149 ล้านบาท อนุมัติหนังสือค้ำประกัน จำนวน 41,223 ฉบับ
โดยโครงการค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 3 ลำดับ ได้แก่
1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อตาม พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟูระยะที่ 2 สัดส่วน 44%
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. สร้างชาติ หรือ PGS 9 ดีแน่นอน สัดส่วน 40%
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ไมโคร 4 รายเล็กเสริมทุน สัดส่วน 4%
บสย. มีสัดส่วนให้การค้ำประกันสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 73% และสถาบันการเงินของรัฐอยู่ที่ 27% โดยประเภทธุรกิจที่ บสย. ค้ำประกันสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ
1.ธุรกิจบริการ อาทิ รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร 13,000 ล้านบาท (28%)
2.ธุรกิจการเกษตร อาทิ เกษตร ปศุสัตว์และประมง 5,500 ล้านบาท (11%)
3.ธุรกิจการผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 5,300 ล้านบาท (11%)
4.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 4,400 ล้านบาท (9%)
5.ธุรกิจเหล็ก ผลิตภัณฑ์โลหะ และเครื่องจักร 3,000 ล้านบาท (6%)
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้านยอดค้ำประกันสินเชื่อ ในไตรมาส 1 คือ กลุ่มธุรกิจการเกษตร ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ ผักผลไม้ ยางพารา ข้าว มันสำปะหลังและอ้อย ซึ่งมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญขยายตัวถึง 30% เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2564 ก้าวจากลำดับ 3 ในปี 2564 มาเป็นลำดับ 2 ในปี 2565
นอกจากนี้ บสย. ยังได้ร่วมโครงการต่างๆ กับธนาคารและองค์กรพันธมิตร เพื่อร่วมกันสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านมาตรการทางการเงิน ช่วยการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1.โครงการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG (BIO-Economy เศรษฐกิจชีวภาพ Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน และ Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว) ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และธนาคารพันธมิตร เพื่อส่งเสริมสนับสนุนมาตรการทางการเงิน เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับธนาคารพันธมิตร สนับสนุนการดำเนินธุรกิจกลุ่มซัพพลายเชน ผู้ส่งออก
2.โครงการจับคู่ความร่วมมือสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จับคู่ กู้พร้อมค้ำ ในโครงการ “สินเชื่อ SMEs Re-start” เติมทุนเสริมสภาพคล่อง ธุรกิจท่องเที่ยว และ Supply Chain
3.โครงการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มธุรกิจส่งออก ซัพพลายเชน โลจิสติกส์ และความร่วมมือค้ำประกันสินเชื่อแบบบุคคล เป็นต้น
สำหรับแผนดำเนินงานไตรมาส 2 บสย. พร้อมขับเคลื่อน กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ เติมทุนเสริมสภาพคล่อง ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อต่างๆ รองรับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม รวมวงเงิน 100,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan Extra วงเงิน 90,000 ล้านบาท สำหรับลูกหนี้เดิมตาม พ.ร.ก. Soft Loan
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อเติมเต็มรายย่อย วงเงิน 8,000 ล้านบาท
3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ วงเงิน 1,000 ล้านบาท
4.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Supply Chain Finance วงเงิน 1,000 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 2 บสย. ได้เตรียมโครงการความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการขับเคลื่อนและเปิดตัวโครงการ Digital Transform ก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างเต็มตัว ด้วยบริการค้ำประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่จะเชื่อมโยงและเข้าถึงผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน
- สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ จาก ออมสิน ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.49%
- ไอแบงก์ จัด สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท