ใครกัน ? ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ แฉมีคนเอา เงิน บริจาค ‘ติ๋ม เพ็ญพร’ ไปใช้ 3 แสนบาท ลั่น ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็นคนที่เข้ามาทวงบุญคุณ!
หลังจากที่มีข่าวของอาสาชื่อดัง ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์‘ ออกมาขอความช่วยเหลือให้กับ อดีต นางแบบดัง ‘ติ๋ม เพ็ญพร ไพฑูรย์‘ ที่กำลังป่วยเป็นโรคไทรอยด์และถุงลมโป่งพอง จนได้รับ เงิน บริจาคเป็นจำนวนที่สูงถึง 1.5 ล้านบาท กระทั่งมีข่าวการ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด (25 เม.ย.) หลังจบพิธีพระอภิธรรมของ ติ๋ม เพ็ญพร ณ วัดหลักสี่ ทางหนุ่ม บิณฑ์ ก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชน เผย มีคนเอาเงินบริจาคของอดีตนางแบบดังไปใช้ส่วนตัวจำนวน 3 แสนบาท พร้อมยังเผยว่า บุคคลดังกล่าว ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็นคนที่เข้ามาทวงบุญคุณ โดยระบุว่า
“ผมไม่เข้าไปก้าวก่าย ตอนได้เงินบริจาคมา 1.5 ล้าน พี่ติ๋มบอกว่ามีคนมาเอาไป 3 แสน ผมก็ตกใจ ให้เขาไปได้ยังไง ก็เงียบ ไม่ตอบ บอกว่าพี่ติ๋มไม่พูดแล้วกันนะ เขาเอาไปแล้วมีความสุขก็ปล่อยเขาไป เขาเป็นคนแบบนี้ เราก็ถามว่าพี่ติ๋มให้เขายืมไปได้ยังไง เขาก็ไม่พูด ไม่อะไร
ตอนนี้เงินเหลือประมาณ 8 แสน ลูกชายเขามาก็เป็นความรับผิดชอบลูกชายไป ลูกชายจะทำอะไรก็แล้วแต่ เรื่องเงินก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง เพียงแต่อยากรู้ว่าเงินพี่ติ๋มหายไปไหน อ๋อ เบิกไปให้คนนั้นคนนี้ เบิกไปซื้อนั่นซื้อนี่ ก็โอเค แต่จากวันที่บริจาค 2 วันเอง ผมให้ลูกน้องไปเช็กว่ามีคนช่วยเยอะไหม ก็อ้าวพี่ติ๋ม ใครเบิกไป 3 แสน นั่นแหละ มีคนเอาเงินไป 3 แสน
ผมทราบว่าใครเอาไปแต่ไม่พูดดีกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวเขา ถ้าผมพูดดรามาอยู่แล้ว เป็นคนใกล้ชิดเขาด้วย แต่ไม่พูดแล้วกัน มันจบไปแล้ว พี่ติ๋มก็เสียไปแล้ว ไม่อยากไปรื้ออะไรมากมาย ไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ใช่เพื่อนดารา แต่เป็นคนที่เคยมาช่วยเหลือพี่ติ๋ม เห็นพี่ติ๋มได้รับปุ๊บก็มาทวงบุญคุณ
ผมจะติดต่อไป แต่พี่ติ๋มบอกว่าไม่เป็นไร ปล่อยเขานะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา ช่างเขาเถอะ เอาไปก็แล้วแต่ ไม่อะไรทั้งนั้น พี่ติ๋มผิดเอง ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าพี่ทำใจได้พร้อมให้เขาไปก็จบ ไม่พูด เพราะพี่ติ๋มสั่งไม่ต้องพูด แต่ผมรู้ว่าเป็นใคร
เป็นคำบอกของพี่ติ๋ม พี่ติ๋มขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพี่ติ๋ม ที่นำเงินบริจาคมาให้ แต่พี่ติ๋มเป็นคนขี้สงสารคน คนนี้เคยดูแล เขามาบีบน้ำตาทุกอย่าง ทำให้พี่ติ๋มใจอ่อนให้เขาไปกด ตอนนั้นเป็นบัญชีอันเก่า พอรู้ปุ๊บผมก็เปลี่ยนเป็นบัญชีใหม่ให้พี่ติ๋ม เป็นเอทีเอ็มใหม่ ถ้าเป็นอันเก่าคงหมดไปแล้ว ไม่ต้องไปสืบหรอกว่าใคร ผมรู้ว่าใคร เคยคุยกับเขาด้วย”