เปิดพิกัด ‘ที่เที่ยวเชียงใหม่’ กิ่วแม่ปาน เช็กกำหนดการขึ้นดอยอินทนนท์ที่นี่
ชวนเที่ยว "กิ่วแม่ปาน" อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อัปเดตกำหนดการเปิด-ปิด ประจำปี 2022-2023 มีวิธีการจองคิวอย่างไรบ้าง
กิ่วแม่ปาน อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 2,200 เมตร
เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทิวทัศน์ทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย อัปเดตกำหนดการล่าสุด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป สามารถจองคิวเพื่อเข้ากิ่วแม่ปานได้ที่ทางเข้าเกิ่วแม่ปานเท่านั้น
ทั้งนี้ กิ่วแม่ปานเป็นเส้นทางเดินป่าลาดชัน มีลักษณะเป็นวงรอบความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีจุดให้แวะพักมากถึง 21 จุด ส่วนมากมักใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมงโดยประมาณ
นอกจากนี้ในบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติยังประกอบด้วยแลนด์มาร์กสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ น้ำตกลานสเด็จ/ธารสเด็จ, รอยอุ้งตีนหมีดำและหมีควายบนต้นก่วมขาว, ต้นไม้สูงระดับ 600 – 1,000 เมตร, ด้วงดอยอินท์ ตัวสีฟ้า, ต้นแข้งไก่ ที่มีลักษณะเหมือนขาไก่, ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์,
ผาแง่มน้อย, จุดชมวิวระเบียงไม้ 360 องศา และต้นกุหลาบพันปี ที่หาดูได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวปลายปีเท่านั้น
เข้ามาเช็กรายละเอียดเส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปาน พร้อมช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวได้ที่นี่
สำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
ที่เที่ยวเชียงใหม่ 2022 กิ่วแม่ปาน เดินกี่โล? เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ป่าน มีระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินชมวิวและศึกษาเส้นทางธรรมชาติเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย การพัก และการแวะถ่ายรูป หากแวะนานก็จะใช้เวลามากกว่าปกตินะครับ ซึ่งในการเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ตามนี้
ช่วงกิโลเมตรที่ 1
เป็นการเดินขึ้นอย่างเดียว โดยมีบันไดสลับกับเส้นทางธรรมชาติ ช่วยวอร์มร่างกายได้ดีก่อนเริ่มแอดเวนเจอร์อย่างจริงจัง
ช่วงกิโลเมตรที่ 2
ลักษณะทางเดินจะเป็นการลงจากสันเขา ซึ่งจะมีความลาดชันพอสมควร ต้องระมัดระวังในช่วงเส้นทางลง
ช่วงกิโลเมตรที่ 3
จะเป็นการเดินในป่า ซึ่งพื้นที่จะเป็น 5 เขาลูกเล็กไปจนจบเส้นทาง ทางเดินจึงมีการสลับขึ้นสลับลงไปมา โดยจุดที่ชันที่สุดจะอยู่ที่เขาลูกแรกและลูกที่ 4 แต่จะมีบันไดให้เดินขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อการเดินทางที่ง่ายยิ่งขึ้น
เตรียมตัวก่อนไป “กิ่วแม่ปาน”
แม้ว่าที่กิ่วแม่ปานจะเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดนิยม ซึ่งตลอดทั้งปีก็จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนขึ้นไปท่องเที่ยวอยู่ไม่ขาดสาย แต่ก่อนจะไปเที่ยวก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานค่อนข้างลาดชันและเดินทางลำบากในระดับหนึ่ง
ดังนั้นการเตรียมตัวสวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสม จะช่วยให้เราเดินทางได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ซึ่งจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย
- เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาว เนื่องจากช่วงหน้าหนาวด้านบนกิ่วแม่ปานนั้น จะมีอุณหภูมิต่ำอยู่ที่ประมาณ 0 – 9 องศาเลยทีเดียว หากต้องเดินทางในช่วงฤดูหนาว ก็ต้องเตรียมให้พร้อมทั้งร่างกาย จิตใจและเสื้อผ้ากันไปเลย
- แว่นกันแดด หมวก และน้ำดื่ม จำเป็นมากสำหรับผู้ที่เดินทางมาในช่วงบ่าย ในช่วงเวลานี้แดดจะจัด ทำให้เราเหนื่อยได้ง่าย
- ก่อนขึ้นเดินทางกิ่วแม่ปาน แนะนำให้ทำธุระให้เสร็จ เนื่องจากด้านบนไม่มีห้องน้ำให้นะจ๊ะ
- ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงและอาหารขึ้นไปทาน
- สวมรองเท้าผ้าใบ และกางเกงขายาวเพื่อความสะดวกและคล่องตัว
- ยารักษาโรคประจำตัว
กิ่วแม่ปานเปิดเดือนไหน
แจ้งกำหนดการความคืบหน้าของเส้นทางธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน บนดอยอินทนนท์ พร้อมเปิดบริการแล้วในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นี้
ในเวลาปกติบางปีกิ่วแม่ปานขะเปิดทำการในช่วงเดือน พฤศจิกายน – พฤษภาคม และทำการปิดให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูในหน้าฝน ระหว่างเดือน มิถุนายน – 31 ตุลาคม โดยช่วงเวลายอดฮิตและเหมาะสมจะเป็นช่วงเดือน ธันวาคมจนถึงเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตามที่เที่ยวกิ่วแม่ปาน จะมีการแบ่งเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติออกเป็น 5 กลุ่มต่อรอบชั่วโมง กลุ่มละไม่เกิน 10 คน และรอบเวลาการเดินมีตั้งแต่ 06.00 น. – 15.50 น.
ระยะของรอบจะห่างกันประมาณ 10 นาที รับได้ประมาณ 50 กลุ่ม/วัน สามารถเริ่มลงทะเบียน จองคิวได้ตั้งแต่ 05.30 น. เป็นต้นไป ได้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างหน้าทางเข้ากิ่วแม่ปาน
วิธีจองคิวขึ้นกิ่วแม่ปาน
- เตรียมบัตรประชาชน / พาสปอร์ต
- ใบรับรองการฉีดวัคซีน
- ผลการตรวจโควิด Antigen Test (ATK) ที่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือ ผลการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ก็ได้เช่นกัน
- หากเคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนนับจากสิ้นสุดการรักษา ให้ยื่นใบรับรองแพทย์กับเจ้าหน้าที่ด้วยนะ
ทั้งนี้ การเที่ยวกิ่วแม่ปาน จะมีค่าบริการ 200 บาท/กลุ่ม (สามารถเดินทางคนเดียวได้) โดยราคานี้จะรวมกับไกด์นำทาง ซึ่งกิ่วแม่ปานนั้น ไม่อนุญาตให้ศึกษาเส้นทางเพียงลำพัง หากมาคนเดียวก็จะต้องรวมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ
เช็กเส้นทางไป “กิ่วแม่ปาน”
สำหรับการเดินทางไป กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ โดยรถสาธารณะ สามารถทำได้หลายวิธี โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. รถสองแถวเหลือง สายเชียงใหม่ – จอมทอง นั่งไปยังดอยอินทนนท์ รถจอดที่บริเวณหน้าประตูเชียงใหม่
-
- ช่วงเวลาบริการ 08.00 น. – 16.00 น. ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง และสามารถเหมารถจากที่นี่ไปอินทนนท์ก็ได้
- ราคาที่เหมาะสมจะไม่เกิน 1,800 บาทต่อคัน แต่ถ้าหากเป็นช่วงปีใหม่ราคาค่ารถจะปรับตัวสูงขึ้นได้
2. รถบัสสีฟ้าสาย เชียงใหม่ – ฮอด – ดอยเต่า สาย1232 ก. ต้นทางจาก อาเขตช้างเผือก ไปยังปลายทาง ฮอด
-
- คันแรกเริ่มต้นเวลา 04.30 น. ออกทุก ๆ 20 นาที และคันสุดท้ายออกเวลา 17.30 น. อัตราค่าโดยสาร 53 บาท
หลังจากนั้น เมื่อถึงหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง ให้ต่อรถจอมทอง – อินทนนท์ ไปลงที่ทำการอุทยานฯ ด้วยรถตู้ ราคาเช่าเหมา 1,800 บาท หรือ รถสองแถว (รถสีเหลือง) ราคาเช่าเหมา 1,500 บาท
ถ้าหากมาในช่วงเทศกาล หรือฤดูกาล ท่องเที่ยวค่ารถอาจมีการปรับตัวขึ้นอีกเล็กน้อย ค่าเหมารถนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมการเข้าของอุทยานดอยอินทนนท์ อีกคนละ 20 บาท
ส่วนรถบัสขนาดใหญ่ จะไม่สามารถขับขึ้นไปบนยอดดอยได้ แต่สามารถจอดรถได้ที่วัดน้ำตกแม่กลาง ซึ่งตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงด่าน ในช่วงเทศกาลคิดอัตราค่าจอดคันละ 50 บาท
พิกัดท่องเที่ยวบนกิ่วแม่ปาน
บนกิ่วแม่ปาน เชียงใหม่ ไม่ได้มีเพียงเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เพราะระหว่างทางยังมีจุดชมวิว ถ่ายรูปท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เราได้แวะชมตลอดเส้นทางอยู่อย่างไม่ขาดสาย
- น้ำตกลานสเด็จ/ธารสเด็จ
- รอยอุ้งตีนหมีดำและหมีควายบนต้นก่วมขาว ต้นไม้สูงระดับ 600 – 1,000 เมตร
- ด้วงดอยอินท์ ตัวสีฟ้า ๆ
- ต้นแข้งไก่ ที่มีลักษณะเหมือนขาไก่
- ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ ถ้าเกิดมาในช่วงฟ้าปิด วิวทุ่งหญ้าและทุ่งนาทั้งหมดจะเป็นทะเลหมอก (ฟ้าปิดหรือเปิดจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้น ๆ เลย
- ผาแง่มน้อย จะเป็นหินคู่รัก หินแกรนิตอายุ 500 ล้านปี
- จุดชมวิวระเบียงไม้ 360 องศา
- ต้นกุหลาบพันปี
นอกจากนี้อาจจะมีโอกาสได้เห็นกวางผา หรือสัตว์ต่าง ๆ ตามแต่ละจุด และถ้าไม่มีหมอก จะเห็นทัศนียภาพของนาขั้นบันได ป่าบงเปียงและม่อนแจ่มอีกด้วย ส่วนเส้นทางลงนั้น จะมีจุดที่มองเห็นพระมหาธาตุทั้ง 2 องค์ นับว่าเป็นเส้นทางที่คุ้มค่าแก่การมาเยือนมากเลยทีเดียว แค่จุดที่สำคัญ ๆ และน่าสนใจ ก็มีมากมายถึง 8 จุดแล้ว แต่ความเป็นจริง ที่นี่มีจุดให้แวะชมและถ่ายรูปมากถึง 21 จุดด้วยกัน
21 จุดพักเส้นทางกิ่วแม่ปาน
สำหรับเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน จะมีจุดแวะพัก ทั้งหมด 21 จุดเส้นทาง ตลอดการเดินทาง โดยจะมีจุดไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาเช็กในนี้กันได้เลย
- เฟิร์นยุคโบราณ บริเวณรอบ ๆ เป็นป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น
- ป่าเมฆ ป่าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก พันธุ์ไม้ที่ขึ้นได้บริเวณนี้จะมีแต่กลุ่มไม้เมืองหนาว เช่น หว้า กล้วยไม้ กุหลาบพันปี เฟิร์น กุหลาบขาว และ มอส
- ป่าต้นน้ำ ต้นกำเนิดสายธาร มีน้ำตกขนาดเล็กไหลมาเป็นลำห้วย ปลายทางของน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง
- พรรณพืชไม้ป่าเมฆ ต้นก่อ ต้นหว่าอ่างกา ต้นทะโล้ ในป่านี้เป็นต้นไม้เมืองหนาว มีการปรับตัวให้อยู่ได้ในป่าหนาวและชื้นสูง
- ป่าซ่อมป่า เป็นวงจรการพื้นฟูตนเองของป่า
- เถาวัลย์ เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดจัด โตเร็ว สามารถเลื้อยพันต้นไม้ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว กระรอกและสัตว์หากินบนต้นไม้จะใช้เป็นเส้นทางเดิน
- ทุ่งหญ้าเมืองหนาว หรือทุ่งหญ้าอัลไพน์
- กู๊ดเกี๊ยะ เฟิร์นทนไฟ ขึ้นบริเวณทุ่งหญ้าเมืองหนาว ซ่อนลำต้นไว้ใต้ดิน
- จุดชมระเบียงไม้ เป็นพื้นที่โล่ง มีระเบียงยื่นออก เป็นจุดพักใหญ่และชมวิวแบบ 360 องศา
- กวางผา เป็นสัตว์ที่ชอบอยู่รวมกันตามทุ่งหญ้าบนภูเขา และหน้าผาในเทือกเขาสูง และเนื่องจากปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว จึงมีโอกาสเจอได้ยาก
- ผาแง่มน้อย หินแกรนิตที่มีอายุกว่า 500 ล้านปี
- ป่าสองมุมบนสันเขา “กิ่ว” ภาษาเหนือแปลว่า แคบ ที่นี่จึงเป็นพื้นที่บนสันเขาส่วนที่แคบที่สุด ลาดเขาสองด้านเป็นป่าต่างชนิดกัน
- กุหลาบพันปี ปรับตัวเองให้อยู่ได้ในอากาศหนาวเย็นหรือลมแรง ใบจะเป็นแผ่นที่เหนียวและหนาสามารถลดการคายน้ำได้ ดอกมีสีแดงเข้ม และจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม
- ป่าร้อน ป่าหนาว ด้วยสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ป่าร้อนจะมีพันธุ์ไม้ใบกว้าง ส่วนป่าหนาวจะเป็นพันธุ์ไม้พุ่มเตี้ย
- จุดชมวิวสองพระธาตุ จะอยู่ระหว่าง จุดที่ 14-15 จะต้องเดินเข้าไปประมาณ 3 นาที เพราะไม่ได้อยู่ในเส้นทางหลัก
- สายน้ำ ยอดเขาสูงสุดของไทย ห้วยสายเล็ก ๆ มีสภาพเหมือนผ้าห่ม
- มอส ที่ขึ้นตามโคนไม้และที่ชื้นฉ่ำ
- ป่าสองรุ่น ในป่ามีไม้หลายชนิด มีอายุ และความสูงที่ไม่เท่ากัน
- สูงใหญ่แต่ล้มง่าย ป่าเขาสูงชัน หน้าดินจะถูกน้ำฝนชะล้างจนมีความหนาเพียง 1-2 เมตร ต้นไม้สูงใหญ่มักไม่พบรากแก้ว เพราะพื้นเป็นหิน และเมื่อมีพายุใหญ่มาต้นไม้ก็ล้มได้โดยง่าย จึงเป็นที่มาของชื่อจุดนั่นเอง
- กูดต้น เป็นเฟิร์นสัญลักษณ์ของป่าบริสุทธิ์
- เสียงป่า จุดนี้จะได้ยินเสียงของใบไม้หล่น นกร้อง สายน้ำ และลมพัดพร้อมกันเหมือนเป็นวงดนตรีวงหนึ่ง
- จุดสรุปของป่าเมฆที่เป็นของขวัญจากธรรมชาติ และแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติ
สำหรับรายละเอียดเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตามรายละเอียดที่ให้ไว้ ดังนี้
- ที่อยู่ : บริเวณกิโลเมตรที่ 43 ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
- แผนที่ : Google Map
- เบอร์โทร: 053-286729 และ 092-3799584
- เว็บไซต์ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เรียกว่าที่เที่ยวเชียงใหม่กิ่วแม่ปาน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ยอดนิยมในช่วงฤดูหนาว หากใครยังไม่มีจุดเช็คอินช่วงปีใหม่ และอยากศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่รอให้คุณแวะไปเยือน ไปศึกษา และไปสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็นด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม สดชื่น สบายตา จะโซโล่ทริปก็ได้หรือไปยกก๊วนก็ดี ข้อมูลเก็บแน่นแล้ว ก็แพ็คกระเป๋าไปกันเลยครับ