สนามบินสุวรรณภูมิ สั่งแก้ไข พื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว หลังถูกจวก Test&Go
สนามบินสุวรรณภูมิ ออกมาสั่งแก้ไข พื้นที่รับรองนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศด้วยวิธี Test&Go หลังจากที่ ยูทูปเบอร์ดังได้ออกมาวิจารณ์ถึงความเรียบร้อย
สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ออกมาร่อนประกาศหลังจากที่ อติชาญ เชิงชวโน หรือ อู๋ spin9 ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความวิจารณ์ถึงความเป็นเรียบร้อยของมาตรการ Test&Go พร้อมระบุว่า หากชาวต่างชาติเจอแบบนี้ คงไม่มีใครอยากกลับมาประเทศไทยอีก
ล่าสุด นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. (AOT) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เผยแพร่ภาพการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นความแออัดและไม่ได้รับความสะดวก บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้านั้น กรณีความแออัดบริเวณดังกล่าวจะเกิดขึ้นในบางช่วงที่เที่ยวบินมีความหนาแน่น (Peak) ประกอบกับในช่วงนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น หลังจากวันที่ 1 เมษายน 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศโดยยกเว้นการตรวจ RT-PCR ที่ต้นทาง ทำให้จำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้นจากประมาณวันละ 6,000 – 7,000 คน เป็นวันละ 9,000 – 10,000 คน
จึงส่งผลให้บางช่วงเวลาเกิดความคับคั่งบริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00 – 07.00 น. และ 12.00 – 15.00 น. โดยมีจำนวนผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1,500 – 2,000 คนต่อชั่วโมง ขณะที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,000 คนต่อชั่วโมง ตามมาตรการการคัดกรองด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการบูรณาการการให้บริการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) และทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับการบริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์ พร้อมทั้งกำหนดให้ติดป้ายแสดงชื่อโรงแรมเรียงตามตัวอักษรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเข้ารับบริการของผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางออกจากห้องสายพานรับกระเป๋าขาเข้าจากจุดตรวจศุลกากรจากเดิม 1 ช่องทาง เป็น 2 ช่องทาง
รวมถึงขอความร่วมมือโรงแรมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และรถรับส่งผู้โดยสารที่จะต้องนำไปตรวจ RT-PCR และรอผลที่โรงแรม ให้มีจำนวนเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่ม มากขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการการให้บริการที่สอดคล้องกับแนวคิดการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข COVID – Free Setting อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อให้ยังสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร พร้อมกับการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงต้องเข้มงวด ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง