‘ก่อลูกเอียด’ ไม้ต้นหายาก พืชชนิดใหม่ของโลก ค้นพบโดยนักวิจัยกรมอุทยานแห่งชาติฯ
วันที่ 24 มีนาคม 2564 นายอรุณ สินบำรุง หัวหน้าสวนรุกขชาติเขาพุทธทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในขณะปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักวิจัยโครงการวิจัยนิเวศวิทยาป่าไม้ระยะยาว สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ นายสุคิด เรืองเรื่อ นักพฤกษศาสตร์หอพรรณไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้ลงพื้นที่วางแปลงสำรวจถาวรเพื่อศึกษาโครงสร้างสังคมพืชป่าดิบชื้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ได้พบกลุ่มประชากรไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง บริเวณที่ลาดไหล่เขาและใกล้สันเขาในป่าดิบชื้น ท้องที่บ้านบางมัน ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ซึ่งในเบื้องต้นจำแนกได้เป็นไม้ก่อในสกุลก่อหิน (Lithocarpus Blume) ในวงศ์ไม้ก่อหรือไม้โอ๊ค (Fagaceae) แต่ยังไม่สามารถระบุชนิดที่ชัดเจนได้ เนื่องจากขณะนั้นทำการตรวจสอบได้ยากว่าเป็นพืชชนิดใหม่หรือไม่ โดยได้ถ่ายภาพไว้แต่ไม่ได้ทำการเก็บตัวอย่างในขณะนั้น
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2563 ได้เดินทางไปปฏิบัติงานสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพป่าไม้ ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งของ กลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ซึ่งพื้นที่สำรวจตามแผนงานคืออุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร และพบว่ามีกลุ่มประชากรของไม้ก่อชนิดเดียวกันนี้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวด้วยเช่นกัน ซึ่งกำลังติดผลในระยะผลแก่พอดี จึงได้ทำการเก็บตัวอย่าง และทำการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการโดยละเอียดร่วมกับ รศ.ดร.สราวุธ สังข์แก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์พืช จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ดร.อัจฉรา ตีระวัฒนานนท์ จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ แล้วพบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก จึงทำการตั้งชื่อและเขียนคำบรรยายทางพฤกษศาสตร์ ตามกฎนานาชาติของการกำหนดชื่อวิทยาศาสตร์ของพืช (ICN) และได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Phytotaxa เล่มที่ 541(1) หน้า 73-78 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 (2022) ซึ่งเป็นการร่วมตีพิมพ์โดยบุคลากรจาก 3 หน่วยงาน คือ นายอรุณ สินบำรุง และ นายสุคิด เรืองเรื่อ จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ รศ.ดร.สราวุธ สังข์แก้ว จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ดร.อัจฉรา ตีระวัฒนานนท์ จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)
ก่อลูกเอียด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lithocarpus eiadthongii Sinbumr., Rueangr. & Sungkaew โดยคำระบุชนิด eiadthongii ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ ผศ. ดร.วิชาญ เอียดทอง อดีตอาจารย์ผู้ล่วงลับ ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลงานของท่านนับเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่วงการวนศาสตร์ เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชารุกขวิทยาป่าไม้ (Forest Dendrology) ให้แก่นิสิตวนศาสตร์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ท่านนับเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อยให้ลูกศิษย์ (รุ่นน้อง) หลายๆท่านให้รักในการศึกษาพรรณไม้ ทั้งในการศึกษาต่อและปฏิบัติงานด้านรุกขวิทยาป่าไม้ พฤกษศาสตร์ป่าไม้ และอนุกรมวิธานพืช ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย และหน่วยงานราชการ สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ก่อลูกเอียด เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 18-35 เมตร ในเรือนยอดชั้นกลาง และชั้นรองเด่น ในป่าดิบชื้นที่ระดับความสูง 60-260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มักพบตามไหล่เขา ลำต้นมักพบเป็นพูอน มีลักษณะเด่นที่ช่อผลค่อนข้างสั้น ยาว 4-10 ซม. ผลมีขนาดเล็ก ถ้วยผลมีก้านชูยาว 3-6 มม. เรียงเป็น 2-3 วงเห็นได้ชัดเจน ถ้วยผลเป็นลักษณะคล้ายวงแหวนเรียงกัน (5)6-9 วงเห็นได้ชัดเจน ตัวผลเป็นรูปไข่กลับหรือรูปไข่ มีสัดส่วนของความยาวมากกว่าความกว้างอย่างชัดเจน
คำว่า “เอียด” เป็นภาษาทางภาคใต้ที่หมายความว่า มีขนาดเล็ก ซึ่งก่อลูกเอียดเป็นก่อที่มีผลขนาดเล็ก น่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋ม และเป็นการสอดคล้องเหมาะสมกับนามสกุลของท่านอาจารย์วิชาญ เอียดทอง นอกจากนี้ยังได้พบกลุ่มประชากรก่อลูกเอียดมีการกระจายพันธุ์ต่อเนื่องมาถึงพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีพังงา ท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ด้วยเช่นกัน จึงจัดได้ว่าก่อลูกเอียดเป็นไม้ต้นหายากพบเฉพาะจังหวังระนองและพังงา
ที่มาาภาพและข้อมูล : news.dnp.go.th