ประวัติ Sberbank ธนาคารรัสเซีย ธุรกิจบนเส้นด้าย พิษสงคราม
เล่าย้อน ประวัติ Sberbank ธนาคารมาตรฐานระดับโลก ที่ชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย จากรายงานจากสำนักข่าว Reuters ได้มีกล่าวว่า Sberbank ธนาคารยักษ์ใหญ่จากทางรัสเซีย เตรียมถอนตัวจากยุโรปแล้ว หลังจากที่เม็ดเงินไหลออกจากธนาคารเป็นอย่างมาก อันเป็นผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวด หลังจากกองทัพรัสเซียบุกประเทศยูเครน อาจนำไปสู่การล้มละลายได้
ประวัติ Sberbank กว่าจะเป็นเจ้าทางการเงินฝั่งหมีขาวเป็นมาอย่างไร ?
1841 – 1991 จุดเริ่มต้นของ สเบอร์แบงก์ (Sberbank) กับบทบาทในโซเวียต
ย้อนกลับไปยังสมัยการปฏิรูปทางการเงินของ Georg Ludwig Cancrin ในปีค.ศ.1841 ได้มีการก่อตั้งธนาคารรัฐแห่งแรงในาสหภาพโซเวียต และในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ธนาคารแห่งนี้นั้นมีทั้งสิ้นกว่า 4 พันแห่งทั่วสหภาพ มีผู้ฝากเงินมากกว่า 2 ล้านคน และเริ่มมีการบริการที่มากขึ้นทั้งการได้รับอนุญาตให้ขายประกัน ให้สินเชื่อ ให้เครดิต
หลังจากการปฏิวัติ Bolshevik Revolution ในปีค.ศ.1917 ระบบธนาคารของรัฐ ยังคงดำเนินกิจการและเติบโตต่อขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การบริหารของกระทรวงการคลังของ สหภาพโซเวียต และตั้งแต่ปีค.ศ. 1926 มีการใช้ระบบธนาคารเพื่อใช้ในการจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงาน เพิ่มการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล วางพันธบัตร และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย และกระจายสาขาไปทั่วโซเวียตกว่า 80,000 สาขา
ภายหลังจากการล่มสลายของโซเวียต ธนาคารรัฐแห่งนี้จึงได้แยกตัวอออกมาเป็นอิสระในปีค.ศ.1991 ได้รับการจัดระเบียบใหม่เป็น “ธนาคารเพื่อการพาณิชย์ร่วมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Sberbank of Russia)”
2011 – 2013 ธนาคารเพื่อการพาณิชย์ร่วมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Sberbank of Russia)
ภายหลังการล่มสลายของโซเวียต สเบอร์แบงก์ (Sberbank) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นธนาคารสากลที่ใหญ่ที่สุดท่ามกลางการแข่งขันของธนาคารเอกชน และธนาคารพาณิชย์ของรัฐอื่น ๆ ผลักดันตนเองสู่มาตรฐานระดับสากล ภายใต้การดูแลของ Herman Gref นักการเมืองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ และการค้าของรัฐเซีย
ในปีค.ศ.2011 Sberbank ได้เข้าซื้อกิจการ Volksbank International และ DZ Bank กลุ่มธนาคารเอกชนสัญชาติเยอรมนี, BPCE กลุ่มธนาคารสัญชาติฝรั่งเศษ รวมไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดของ Volksbank ธนาคารในสโลวาเกีย สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี สโลวีเนีย โครเอเชีย ยูเครน เซอร์เบีย บอสเนีย และเฮอร์เซโกวี โดยเมื่อปีค.ศ. 2013 Volksbank ในประเทศยูเครน ซึ่ง Sberbank ถือหุ้นทั้งหมดได้เปลี่ยนชื่อเป็น VS Bank
ในปี 2012 Sberbank ได้เข้าซื้อกิจการ Denizbank ธนาคารจากประเทศตุรกีด้วยมูลค่าทั้งหมดประมาณ 2,821 พันล้านยูโรหรือ 3.504 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
2014 – 2017 ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
หลังจากการที่รัสเซียเข้ายึดคาบสมุทรไครเมียในปี 2014 ทางรัฐบาลของสหรัฐฯ ในสมัยนั้น ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ผ่านสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลัง (OFAC) โดยมีชื่อ Sberbank อยู่ในหน่วยงานที่โดนหางเลขไปด้วย เป็นการลงโทษด้วยการจำกัดการเข้าถึงตลาดทุนของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Sberbank ดิ่งลงมากว่า 22 พันล้านดอลลาร์
ในปี 2015 Sberbank ได้ร่วมกับธนาคารรัสเซียอื่น ๆ ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของสหภาพยุโรป เพื่อยกเลิกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาหุ้นกลับพุ่งขึ้นสูง 89% จนในปี 2016 ยูเครนได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อ Sberbank Russia และระบบการชำระเงิน Kolibri (Hummingbird) ซึ่งเดิมคือ Blitz สืบเนื่องมาจากการเข้ายึดคาบสมุทรไครเมียในปี 2014 และสงคราม Donbass ในยูเครน
2018 – 2020 การรีแบรนด์ครั้งใหญ่ของ Sberbank
ในปี 2020 Sberbank ได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ ทั้งการเปลี่ยน Logo และปรับเปลี่ยนการบริการให้เป็นแบบครบวงจร เป็นมากกว่าธนาคาร และเริ่มพัฒนาบริการต่าง ๆ ทั้งโรงภาพยนตร์ออนไลน์ (Okko), เพลง (SberSound), บริการส่งอาหาร (SberMarket), ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (SberDisk), แท็กซี่ (Citymobil) เป็นต้น
2022 วิกฤติครั้งสำคัญ เสี่ยงถึงล้มละลาย
ในปี 2022 Sberbank ต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรอีกครั้งจากฝั่งยุโรป หลังจากที่ประเทศรัสเซียเดินหน้าบุกยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเงินไหลออกจากธนาคารเป็นมหาศาล หุ้นดิ่งลงสูงสุดในประวัติกาลถึง 90% ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นขึ้นกว่ารอบที่ผ่าน ๆ มาทำให้ในตอนนี้นั้น Sberbank ได้ประกาศ ถอดธุรกิจ ในยุโรปทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็เรียกได้ว่ายังอยู่ในภาวะวิกฤตเสี่ยงล้มละลายอยู่
Sberbank ในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
Elvira Nabiullina ผู้ว่าการธนาคารกลางของรัสเซียกล่าวในวันนี้ (2 มีนาคม) เศรษฐกิจของประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรง และเธอกำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบการเงินสามารถรับมือสถานการณ์ดังกล่าวได้
ในปัจจุบันนั้น Sberbank มีทรัพย์สินในยุโรปมูลค่า 13 พันล้านยูโร (14.4 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งหลังการเกิดการคว่ำบาตรครั้งนี้นั้น ส่งผลกระทบให้มูลค่าสหุ้นตกลงสูงสุดถึง 90% อยู่ในสถานะเสี่ยงล้มละลาย และคาดการณ์ได้ว่า ถ้าสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครนยังไม่คลี่คลายธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งประเทศหมีขาว ก็อาจจะได้พบกับจุดจบในเร็ววัน
จบกันไปแล้วกับการเล่าถึง ประวัติ Sberbank ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งประเทศหมีขาวอย่างรัสเซีย ที่แม้ว่าจะยิ่งใหญ่สักแค่ไหน ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสงคราม เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์แล้ว่าสงคราม ไม่ได้เกิดผลดีกับฝ่ายใดเลย เราก็หวังให้เกิดการเจรจาสงบศึกระหว่ารัสเซีย และยูเครนในเร็ววัน เพื่อป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจลุกลามไปทั่วโลก
เรื่อง : สิทธิโชติ ลังกากาศ
บรรณาธิการ : ทศพล ถิรเจริญสกุล
- ใกล้ล้มละลาย? Sberbank อ่วม! เตรียมถอนตัวจากยุโรป หลังถูกคว่ำบาตรเละ
- รัสเซีย เดินหน้ายิงขีปนาวุธใส่ ยูเครน ต่อเนื่อง เผยเกิดระเบิดสี่ครั้งในเคียฟ (คลิป)
- EU คว่ำบาตรรัสเซีย สั่งอายัดทรัพย์สินรัสเซียใน EU ทั้งหมด
? ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน The Thaiger
? Google Play Store
? App Store