‘หมอยง’ เผย ผลสำรวจฉีดวัคซีนโควิดเด็ก พบเลือกฉีดไฟเซอร์เยอะสุด
หมอยง เผย ผลสำรวจฉีดวัคซีนโควิดเด็ก พบประชาชนเลือกฉีดไฟเซอร์เยอะสุด น้อยสุดคือ สูตรไขว้ ตามมาด้วย ซิโนแวค
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เปิดเผยผลสำรวจว่าด้วยการเข้ารับฉีดวัคซีนแบบสมัครใจ
โดยข้อความระบุว่า “การศึกษานี้ให้นักเรียนมัธยมปลาย 4 ท่าน ฝึกการทำวิจัย แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการสอนให้คิดและวิเคราะห์เป็น เราเริ่มให้วัคซีนในเด็กอายุ 5- 11 ปี ได้เริ่มขึ้นแล้ว ดังได้เคยกล่าวมาแล้วว่าเด็กจะเป็นกลุ่มท้ายท้ายที่ควรจะได้รับวัคซีน
จากแบบสอบถามความสมัครใจในผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 5 ถึง 11 ปี ถึงความสมัครใจในการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในประเทศไทย โดยผ่านทางสื่อสังคม ในช่วงวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ปกครองตอบคำถามมาทั้งสิ้น 3,588 คน ผลที่ได้ พอจะประเมินได้ดังแสดงในรูป
ผู้ตอบแบบสอบถามมีหลากหลายอาชีพ โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ รับราชการ ธุรกิจส่วนตัว บริษัทเอกชน และแม่บ้าน และอื่นๆ อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด จังหวัดอื่นๆโดยเฉพาะปริมณฑล และกระจายเกือบทั้งประเทศ
ผู้ปกครอง (3588คน)จะจะอนุญาตให้ บุตรหลานที่อายุ 5 ถึง 11 ปี รับวัคซีนป้องกัน covid 19 ร้อยละ 75.3 และไม่ขอรับวัคซีนร้อยละ 24.7 ในจำนวนที่จะไปรับวัคซีน (2700 ราย) ชนิดของวัคซีนที่ต้องการ ตามที่ขึ้นทะเบียนจาก อย จะเป็น pfizer ร้อยละ 59.2 sinopharm 30.7 %, sinovac 5.6 %, และฉีดสลับชนิดของวัคซีน 4.6 %
จากข้อมูลทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า ความต้องการที่จะฉีดวัคซีนให้เด็กยังอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3 ใน 4 และการเลือกฉีดชนิดของวัคซีนก็มีความหลากหลาย ที่น่าสนใจคือคำถามปลายเปิด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องให้กับบุตรหลานไปรับวัคซีน ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงอาการข้างเคียง และผลระยะยาวของวัคซีน
การให้ความรู้ ประโยชน์ ผลที่ได้รับ และอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากวัคซีน ในวัคซีนชนิดต่างๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยการตัดสินใจของผู้ปกครอง นักเรียนที่ทำการศึกษาคือ นายนรกิตติ์ สุทธินรเศรษฐ์ นางสาวลิตา ตันติประภาส นายนรเศรษฐ์ สุทธินรเศรษฐ์ และ นางสาวปิยาภา สุทธินรเศรษฐ์”