‘หมอปลา’ เล่าที่มาประวัติ ‘ป้ารัตนา’ เจ้าของวลีเด็ด “ขอให้พระลงโทษอย่างหนัก” เผย ครอบครัวเป็นคนมาฝากป้าไว้เนื่องจากดูแลไม่ไหว
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางหมอผีชื่อดัง ‘หมอปลา มือปราบสัมภเวสี‘ ควงภรรยา ‘น้ำฟ้า‘ ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านเกี่ยวกับที่มา-ประวัติของ ‘ป้ารัตนา‘ เจ้าของวลีเด็ด “ขอให้พระลงโทษอย่างหนัก” ผ่านรายการ ‘คุยแซ่บShow‘ ทางช่อง ‘one31‘ เผย ครอบครัวเป็นคนมาฝากป้าไว้เนื่องจากดูแลไม่ไหว โดยระบุว่า
จากนางพยาบาลห้องผ่าตัดมาเป็นป้ารัตนาอย่างนี้ได้ยังไง ?
หมอปลา: ย้อนไป 14 ปีที่แล้วสามีแกโดนเอามีดแทงปาก แล้วแกอยู่ในเหตุการณ์ แล้วเริ่มช็อกตั้งแต่วันนั้น สมองส่วนหน้าเริ่มตายไปบางส่วน”
มีคนเอาป้ารัตนามาฝากหมอปลาไว้ ?
หมอปลา: ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ญาติเขาดูแลอยู่ คนที่ดูแลเขาป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย เขาไม่สามารถดูแลตัวป้าได้ เขาเลยมาหาผม ผมบอกพาป้ามาเลย เรายินดีดูให้ เพราะที่บ้านผมไม่ได้มีแค่ป้ารัตนาคนเดียว มีหลายคนที่เราช่วยกันดู มีบางคนญาติมาทิ้ง และไม่มีการติดต่อก็มี
สาเหตุหนึ่งที่หมอปลาดูแลป้ารัตนาเพราะท่านหน้าเหมือนแม่ ?
หมอปลา: ใช่ครับ ผมเสียแม่ไป 28 ปี แล้วผมไม่มีโอกาสที่จะตอบแทนพระคุณแกหรอก เพราะตอนนั้นผมอายุ 16 ใบหน้าเขาเหมือนแม่ เราดูแลทุกคนดีอยู่แล้ว แต่หลายคนถามว่าทำไมไม่พาไปนู่นไปนี่ ก็พาไป แต่บางคนพาไปแล้วไปสร้างความวุ่นวายให้กับชาวบ้าน เราก็ไม่เอาไป อย่างตัวป้าเขาไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น แกสนุก แต่ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ขาดหายของแกคืออะไร
ผมคิดว่าพี่เปียน่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด พี่เปียคือสามีแก แต่เขาไม่สนใจ ตอนนี้คนไทยรู้จักป้ารัตนา เมตตาป้ารัตนา แต่ลูกกับสามีไม่เอาเลย
อยู่กับหมอปลาเป็นยังไงบ้าง ?
ป้ารัตนา : สะดวกสบายดี
การที่เอาป้ามาโชว์ในคลิปของเรา สังคมจะมองว่าป้าเขาเป็นตัวตลกไหม ?
หมอปลา: มันแล้วแต่ใครจะมอง แต่เราให้เข้าใจว่าป้ารัตนาเขาเป็นแบบนี้ มันไม่ใช่ป้ารัตนาคนเดียว หลายคน แล้วแบบถ้าวันใดวันนึงเขาหาย เขาจะเป็นยังไง คือคิดแบบนั้นไม่ได้หรอก หลายคนที่ผมไปช่วยเหลือ คนผีเข้า แบบแลบลิ้นปลิ้นตา พวกนี้ก็ปกติ เขาก็มีความสุขกับภาพที่เขาได้เห็น พวกที่ไม่ลงมือทำ ดีแต่วิจารณ์ ประเทศไทยมันเยอะ
คุณลองทำสิ จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง ผมอยู่กับคนแบบป้ารัตนาหลายคนนะ ผมก็มีความสุข บางคนบอกว่าผมเสียงดัง คือผมต้องใช้เสียงเพื่อให้เขามีปฏิกิริยากับผม คือเขาไปทุกโรงพยาบาลมาแล้ว
น้ำฟ้า: ทางโรงพยาบาลให้ยามากินควบคุมอารมณ์เกรี้ยวกราดของป้าเขา ด้วยสมองส่วนหน้าของแกโดนแบคทรีเรียหรือไวรัสทำลายไปแล้ว แกจะจำแค่ติดๆ ดับๆ ก็เลยต้องมาฝากไว้ที่นี่ ด้วยญาติอายุมากขึ้น มีโรคประจำตัว ทุกคนดูแลไม่ไหว ไปมาทุกที่ ไม่มีที่ไหนรับแกเลย จนแกบอกว่าดีใจมากเลยที่โทรมาแล้วหมอปลารับไว้ดูแล
หมอปลา: คือแต่ละสถานที่ก็มีค่าใช้จ่าย ญาติพี่น้องเขาก็ไม่ได้รวย ทางคนชื่อเปียก็ไม่ได้ส่งเสียป้ารัตนาเลย พอมาอยู่ตรงนี้มีคนเมตตา ออกรายการไปก็มีสินค้าเขาจ้างแก เราก็เอาเงินให้ญาติเขาดูแลทั้งหมด เราไม่เคยไปยุ่ง หลายคนบอกว่าหมอปลาหากินกับคนป่วย ผมกล้าพูดเลยว่าผมช่วยคนมา 20 ปี ผมไม่เคยเอาคนป่วยมาหากิน หรือเปิดบัญชีรับบริจาค
คนอินบ็อกซ์มาเยอะมาก ถ้าใครเจอหมอปลาให้เลขบัญชีไปให้มากางต่อหน้าผมเลย ผมไม่มีนิสัยแบบนั้น ผมเกลียดตลอด การเปิดรับบัญชีบริจาค เท่ากับการทำมาหากินพอกพูนให้เป็นคนดี แม้กระทั่งพิธีกรหลายคนเอาผมไปพูดว่าหมอปลากำลังฟอกตัวอยู่ ผมไม่จำเป็นต้องฟอก ชีวิตผมคุณไปดูเลยผมช่วยคนไม่ได้ทำแค่เอาหน้า
หลายคนหมั่นไส้ผม แม้กระทั่งดาราบางคนที่ผมรู้มาหาว่าผมกำลังฟอก ผมฟอกอะไร ธุรกิจสีดำ สีเทา ผมไม่มีเลย และไม่จำเป็นที่จะต้องหากินแบบนี้ เพราะผมพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่
หมอปลาจะดูแลป้ารัตนาถึงเมื่อไหร่ ?
หมอปลา: ก็ดูแลต่อไป เพราะญาติพี่น้องเขาบอกว่าถ้าวันนี้หมอปลาไม่เอามาดูแล ก็ไม่รู้จะฝากใครเขาดูแล เพราะอีกอย่างเขาต้องเสียเงิน เสียทอง ญาติพี่น้องเขาดีกับผมมากนะ มาแบบไหนก็เป็นแบบนั้น
ไม่ใช่วันนี้ป้ารัตนามีคนรู้จักมีชื่อเสียงแล้วเขาจะเอาไปดูแล เขาไม่มีความคิดแบบนั้นเลย ใครให้ผมเอาให้ญาติพี่น้องเขาหมดเลยไม่อยากมีคำครหาว่ามีผลประโยชน์ไง ผมคบกับใครก็แล้วแต่ ทุกๆ คน ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องผลประโยชน์และเงินทองเลย
รับชมรายการ คุยแซ่บShow แบบเต็ม ๆ คลิก!