ข่าวดาราบันเทิง

‘สมปอง’ ไลฟ์ชี้แจงดราม่า ‘ติ๋ม ทีวีพูล’ ลั่น ไม่ได้หิวเงิน!

‘สมปอง’ ไลฟ์ชี้แจงดราม่า ‘ติ๋ม ทีวีพูล’ หลังประกาศถอนตัวจาก รายการ ลั่น ไม่ได้หิวเงิน ไม่มีใครใช้หนี้ให้ มีแต่ผมทำงานใช้หนี้เอง!

จากกรณีข่าวของอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ‘สมปอง​ นครไธสง​’ หรือ ‘ทิดสมปอง​’ ออกมาไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘สมปอง นครไธสง‘ ประกาศถอนตัวออกจากรายการที่ทำร่วมกับทางบริษัท ‘ทีวีพูล กรุ๊ป‘ จนทางผู้บริหาร ‘ติ๋ม​ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย‘ หรือ ‘ติ๋ม​ ทีวีพูล​’ ออกมาตั้งโต๊ะแถลง แจง ไม่อยากฟ้องให้เป็นคดีความ แต่ถ้าอันไหนที่มีความจำเป็นก็คงต้องฟ้อง

Advertisements

วันนี้ (4 ก.พ.) ทาง ทิดสมปอง ก็ได้มีการออกมาไลฟ์สดเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังกล่าว ลั่น ไม่ได้มีปัญหาเรื่องค่าตัว ไม่ได้หิวเงิน ไม่มีใครใช้หนี้ให้ มีแต่ผมทำงานใช้หนี้เอง ส่วนที่ถอนตัวออกจากรายการเพราะงานมันเยอะไปเกือบ จ.-ศ. จนบางทีมันเริ่มส่งผลเรื่องสุขภาพ โดยระบุว่า

ผมได้ฟังแถลงของพี่สาวแล้ว เรื่องแรก เข้าไปอยู่ที่บ้าน เริ่มต้นตอนที่เป็นพระก็ได้ติดต่อไปหาพี่เขา เขาก็บอกต้องเขามีบ้านให้อยู่นะ มีออฟฟิศมีอะไรต่าง ๆ ด้วย เดี๋ยวไงไปดูกันไปดูนะ ก็พูดคุยกันรู้สึกว่าโชคดี ตอนนี้ที่ออกมาก็เป็นเรื่องจริงครับ

แต่เรื่องของเรื่องที่อยู่ ถามว่าไปขอเลยไหม ไม่ได้ไปขออย่างนั้นนะครับ เป็นการพูดคุยกันนั่นก็คือการมีน้ำใจอ่ะ จะบอกว่าเสนอมาก็ได้ครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณที่มีวาสนาได้อยู่เดือนเดียวนะครับ อาจจะไม่ได้นอนบ่อย ด้วยงานด้วยอะไรต่าง ๆ ก็ไป ๆ มา ๆ แต่ก็ขอบคุณสำหรับเดือนนี้นะครับ

80,000 กว่าบาท คือผมก็ไม่ได้มีชุดสำรองอาจจะมีเสื้อ ลิเวอร์พูล บ้างอะไรบ้าง ลูกศิษย์ลูกหาน้องนุ่งเขาที่เขาซื้อมาฝาก ผมไม่รู้ราคาหร่อกครับ ไปถึงก็บอกทีมงานก็จัดเสื้อผ้าให้ ผมไม่รู้หร่อกครับว่าอะไรถูกอะไรแพง ไม่รู้ราคาที่ชัดเจน ผมไม่รู้ว่าผมต้องแต่งตัวสีอะไร สีอะไรเข้ากับสีอะไรทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ครับ

แล้วแต่เลยผมก็เลยว่าจะเอาอะไรให้ผมยังไง ยี่ห้อไหน อย่างไร อะไรเหมาะกับผม ซึ่งไซส์ผมหายากจากความคิดที่เราก็ตัวใหญ่หน่อย แล้วแต่สะดวกผู้จัดการว่า อะไรยังไงคุยกันนะ ยังไงก็มีทีมงานของทางนั้นไปด้วย ช่วยเลือกให้ ผมเลยบอกว่าตัวสองตัวก็แล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่จากทางสาขาท่านก็ลดให้ แถมให้ ก็ขอบคุณมาก ๆ ผมไม่ได้เป็นคนยึดติดยี่ห้อครับ ใส่อะไรก็ได้ครับแต่แล้วก็ได้เลย

Advertisements

แล้วก็ผมเป็นหนี้เป็นสินผมก็รับผิดชอบ ผมจึงย้ำประเด็นเรื่องนี้ ทำงานหนักก็มีแบบว่าเน้นเรื่องเงินเดือนอะไรเนี่ย ก็แน่นอนครับ ต้องมีเงินไปใช้หนี้ ผมไม่ค่อยชอบได้เงินมาเปล่าตั้งแต่เป็นพระเลยครับ เวลาใครจะมาใส่อะไรผมจะไม่ค่อยอยากรับ รับบ้างไม่รับบ้าง

น้อยใจคือผมอยากทำงานทำประโยชน์ให้เขาก่อน เมื่อผมมีหนี้ก้อนใหญ่ขนาดนั้นต้องทำงานใช้หนี้อยู่แล้ว ผมไม่ได้ให้คนมาใช้หนี้ให้ผมนะครับ แต่ผมอยากจะทำงานใช้หนี้เอง งวดแรก 1 ล้านบาท ก็เพิ่งทราบจากเลขาผมเองตอนนี้ก็พูดกันตรง ๆ ว่าผมไม่ได้ใช้เงิน เขาก็เลยโอนไปใช้หนี้ให้ ซึ่งก็ขอบคุณที่มีเมตตามา ขอบคุณจริง ๆ ครับ

ผมยังเอาเงินไปให้ทีมงานคนละ 500 นิสัยผมอยู่แล้ว แต่ผมพึ่งรู้ว่าเงินที่เอามานั้นเป็นเงินจากการทำงาน ไม่ได้เข้ามาที่ผมแต่ไปใช้หนี้เลย ขออนุญาตพี่สาวไม่ได้ใช้หนี้ให้ผมนะครับ จบกันอีกอันนึงครับ สำคัญที่สุดผมชอบทำงานครับงานคือชีวิต ผมเป็นคนเต็มที่กับงาน ทำงานหนักแต่ไม่หิวเงินครับ ให้ผมทำงาน-ทำประโยชน์ให้ก่อน

จะรับผิดชอบตรงนั้นไม่ใช่มาอ้างว่าผมไม่มี ผมไม่จ่ายนะครับ ไม่ใช่นิสัยผมนะครับเพราะว่าเราต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นอยากเห็นคนผมเป็นคนหิวเงิน ฉะนั้นย้ำนะครับไม่มีใครใช้หนี้ให้ผม ผมทำงานใช้หนี้ที่เหลืออยู่ ถ้ามันยังไม่คุ้มกับเงิน 1 ล้านบาท นั้นจะให้ผมใช้เป็นเงินจากที่ผมทำงานให้เสร็จ แล้วให้ผมทำงานให้ได้หมดเลย

เรื่องที่เป็นประเด็นคือเรื่องสัญญาครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ ทีมงานผมคุยกันไปคุยกันมาก็มาให้เซ็นแล้วก็คือที่บ้านผมนึกว่าเดือนละล้าน คำที่มีเขียนบอกจำนวน 4 เดือน ล้านสองแสนห้าอะไรเนี่ย ซึ่งไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ผมก็อ่านดูแล้วทีมงานช่วยกันดูแล้วก็เซ็น

ผมตั้งแต่ตื่นหกโมงเช้า อาบน้ำแล้วก็แต่งหน้า-แต่งตัว ตั้งแต่ 9:00 น. จนถึง 02:00 น. ทีมงานทุกคนดูแลผมจะไม่ค่อยได้พัก แล้วเสียงผมก็หมด ยังต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่ามันคืองาน ให้ใครอะไรมันต้องคุ้มค่า ผมต้องได้ใช้ศักยภาพ ความเป็นตัวตนของผม ความสนุกของผม แค่เสียงแหบกำลังก็ลดลงไปเยอะมาก ๆ แล้ว

แล้วบางผลิตภัณฑ์ผมก็ไม่สามารถจะช่วยเชียร์ได้ เพราะว่าผมเองก็จะมีผลิตภัณฑ์ ก็พูดตรง ๆ จะมาเสียค่าตัวให้เราทำไม ถ้าเราทำงานไม่คุ้ม เราไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น ผมก็เลยเสนอมันไปไหนไม่ได้เลยครับ มันเกือบตลอด 7 วัน จันทร์ถึงศุกร์มีรายการเดียวกันติดกัน 2 วันติดกัน

มีเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกซีเรียสจริงจังนะครับ คบเพื่อนคนธุรกิจสีเทาสีดำอะไรนะครับ ซึ่งผมไม่มีปัญหาใครจะไปทำตรงนั้นแล้วแต่เลยนะครับ ฉะนั้นก็ตอบตรงนี้ได้นะครับ ชัดเจน เอาเรื่องผมไม่ยุ่งกับยาเสพติดแน่นอนนั่นโน่นนี่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องพูดถึงนะครับ ธุรกิจสีเทาอะไรผมไม่ยุ่ง

เรื่องที่ดินจริงไหม มันก็เป็นที่ดินพ่อแม่นะครับ คนบ้านนอกบ้านนาเรามีเป็นที่ดินธรรมดาทั่วไป ผมก็เป็นพระมันไม่มีอะไรเป็นของผมอยู่แล้ว เรื่องเงินเขาตั้งเป้าหมายของเขา แล้วก็เป็นมันก็เป็นแรงผลักดันของคนที่จะทำงานมีเป้าหมาย ไปสู่เป้าหมาย ขายของออนไลน์ทำธุรกิจต่าง ๆ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา

เหมือนที่เรามีประโยคขำ ๆ กันเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากได้ต้องใช้เงิน ผมมองว่ามันเป็นเป็นแรงผลักดันของคนคนนั้นน่ะไม่ใช่ว่าคนจะตั้งตรงนี้แล้วก็เป็นคนไม่ดี ผมอยู่บนพื้นฐานคุณธรรมซื่อสัตย์สุจริต ตั้งจิต ตั้งใจทำงานไม่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรสีเทา ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขอย้ำอีกครั้ง เมื่อผมได้แถลงไปแล้วผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ผมพูดความจริงจากใจ และผมก็ยังรักยังเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณทุกท่านจากใจผมจริง ร่วมงานได้

หวังว่าทุกท่านจะรัก เอ็นดู เมตตาผม จะเตือนหรือแนะนำผมถ้าผมผิดพลาดพลั้งไปอีกในอนาคตข้างหน้าถ้าอย่างนั้น ยังบอกผมได้นะ ผมขออนุญาตอนุโมทนาสาธุครับ เป็นกำลังใจให้ผมติดตามสัญญาครับ อันนี้จริงใจตั้งใจจะมอบความสุขใจให้กับทุกท่านครับวันนี้ทำไมท่านต้องเหนื่อยใจต้องขออภัยต้องขอโทษจากใจจริง ๆ จะตั้งความสุขความสบายใจให้กับทุกท่านจากใจผมครับ

สมปอง

สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง
สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง
สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง
สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง
สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง
สมปอง
ภาพ: Facebook สมปอง นครไธสง

 

Vanrasa J.

นักเขียนข่าวสายบันเทิงไทย ฮอลลีวูด เกาหลี และต่างประเทศ อัปเดตคอนเทนต์ข่าวสารเกี่ยวกับดารา หนัง ซีรีส์ เพลง แฟชั่นและความงาม ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านมุมมองความสร้างสรรค์และน่าสนใจ การันตีด้วยประสบการณ์มากกว่า 2 ปี ประเด็นไหนที่ติดเทรนด์จะต้องมีชื่อของ The Thaiger ร่วมตีแผ่เสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button