“ไพรวัลย์ วรรณบุตร” อดีตพระ ผู้โด่งดังบนโลกออนไลน์ ฟาดคอมเมนต์เดือด ชวนเอี่ยวการเมืองไม่เลิก ย้ำ! อย่าบังคับให้ผมพูดการเมือง
วันนี้ 22 ม.ค. 65 ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ผ่านเพจส่วนตัว หลังมีคอมเมนต์เดือด ชวนเอี่ยวการเมืองไม่เลิก มีข้อความว่า
“รอทิดว่างแล้วมาช่วยกันจัดหนักสำนักพุทธ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล โทรออกเป็นปากเป็นเสียงกระบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยให้เหมือนเดิมนะครับ
อะไรที่ทิดเคยทำตอนบวชแล้วโดนวิพากย์วิจารณ์ เช่น การพูดเรื่องการเมืองแล้วโดนสำนักพุทธออกหนังสือเตือน ตอนนี้ไม่มีผ้าเหลืองมายุ่มย่ามสร้างความลำบากใจให้แล้ว หวังว่าคนที่ติดตามทิดเพราะเหตุนี้จะได้เห็นนะครับ”
หลังจากคอมเมนต์นี้ ถูกแพร่กระจายออกไป ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาชี้เเจงละเอียด เหตุผลที่ตนไม่พูดเรื่องการเมือง เพราะมีบทเรียนหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นช่วงบวช ยิ่งตอนนี้ตนอยู่ในสถานะที่ต้องดูแลตัวเองและครอบครัว ยิ่งต้องระวังให้มากขึ้น โดยโพสต์ระบุรายละเอียดว่า
“ผมสงสัยว่า ทุกคนต้องนั่งวิจารณ์ศาสนาสังคมการเมือง โดยไม่ต้องทำมาหากินหรอครับ ต้องนั่งกระดิกมือกระดิกเท้าด่ากราดคนอื่นส่งเดชไปเรื่อยเพื่อความสะใจหรอครับ
ผมมีคำถามต่อไปว่า ชีวิตคนเรามีแต่เรื่องในส่วนของสังคมหรอครับ ไม่มีเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องจัดการรับผิดชอบอะไรในชีวิตของตัวเองหรอครับ ถ้าคิดแบบนั้นก็ดูเด็กมากไปนะครับ
ชีวิตคนมีหลายส่วน ผมเคยพูดไปแล้วตั้งแต่ที่ผมยังเป็นพระ และทุกส่วนต้องไปด้วยกัน ผมไม่เคยขี้ขลาดนะครับ เวลาที่ต้องวิจารณ์เรื่องศาสนาสังคมหรือแม้แต่การเมืองอย่างตรงไปตรงมา
ล่าสุดเรื่องเจ้าคณะจังหวัดหนึ่งที่ถูกใส่ความเรื่องผู้หญิงซึ่งเป็นหลานตัวเองแท้ๆ ผมก็พูดแถมยังฝากคำถามไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย ในรายการนินทาประเทศไทย
เรื่องหมูแพง ผมก็พูด แต่คำถามคือ ผมต้องพูดไปเรื่อยตลอดเวลาหรอครับ หรือต้องพูดเพราะความกดดันจากใครที่มีสิทธิ์บังคับให้ผมพูด ถ้าผมไม่มีกิน พี่จะส่งเสียเลี้ยงดูผมกับครอบครัวหรอครับ
ผมนึกถึงตอนที่ผมเองโดนอำนาจที่ไม่เป็นธรรมมากมายเล่นงาน สมัยที่ยังบวชอยู่ เวลาที่โดนเล่นงานแบบเงียบๆ ผมไม่เคยออกมาเรียกร้องสักครั้งเลยว่า ขอให้คนอื่นเป็นปากเป็นเสียงหรือปกป้องผมด้วย
ผมเข้าใจดีว่า ทุกคนล้วนมีเงื่อนไขในชีวิตต่างกัน มีการงานมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบไม่เหมือนกัน
ตอนเป็นพระที่ผมพูดเรื่องสังคมการเมืองเยอะมาก เพราะผมตระหนักว่า ผมอยู่ฟรีกินฟรี ผมจึงต้องตอบแทนสังคมและทำเพื่อชาวบ้าน
ตอนนี้ที่ผมสึกแล้ว และต้องรับผิดชอบตัวเองตลอดจนถึงครอบครัวของผมมากขึ้น ผมก็ยังทำหน้าที่ในส่วนที่ผมเห็นว่าผมทำได้อยู่ ทำไมครับ การที่ผมไม่พูดหรือพูดน้อยลง นั่นหมายถึง ผิดหรอครับ”
หลังจากโพสต์นี้ถูกแพร่กระจายออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่ให้กำลังใจแก่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ผ่านเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นและใช้ชีวิตในฐานะปุถุชนอย่างมีความสุข