รู้จัก ‘ท้าวหิรัญพนาสูร’ คือใคร หลัง น้องจ่อย ตายแล้วฟื้น เจอท้าวหิรัญพนาสูร
รู้จัก ‘ท้าวหิรัญพนาสูร’ คือใคร หลัง น้องจ่อย ตายแล้วฟื้น เจอท้าวหิรัญพนาสูร – เทพอารักษ์ประจำตัว รัชกาลที่ 6 มีรูปปั้นอยู่ที่โรงพยาบาล พระมงกุฎ
ชื่อของเทพสูร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท้าวหิรัญพนาสูร กลับมาเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังสื่อได้รายงานอัปเดตชีวิตของน้องจ่อย ผู้เล่าว่าตนเองตายแล้วฟื้นเมื่อ 10 ปีก่อน และได้พบกับท้าวหิรัญพนาสูร ช่วยให้น้องจ่อยกลับเข้าร่าง จนร่างกายแข็งแรงกระทั่งปัจจุบันในวัย 20 ปี
วันนี้ The Thaiger ขอพามาเล่าประวัติของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวกัน
ท้าวหิรัญพนาสูร คือใคร
ท้าวหิรัญพนาสูร มีความเชื่อว่าเป็น เทพอารักษ์ประจำตัวรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันมีรูปปั้น ให้ไหว้สักการะอยู่บริเวณพื้นที่ด้านหลัง รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของพระราชวงพญาไท
เว็บไซต์ของพระราชวังพญาไทระบุว่า ” ใน พ.ศ. ๒๔๖๕ เมื่อการสร้างพระราชวังพญาไทสำหรับประทับเป็นการถาวรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ โปรดเกล้าฯให้ช่างหล่อรูปท้าวหิรันยพนาสูรขนาดใหญ่ด้วยทองสัมฤทธิ์มีชฎา เทริดอย่างไทยโบราณ และไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศ มีพระราชพิธีบวงสรวงขอเชิญท้าวหิรันยพนาสูรเข้าสิงสถิตยนรูปสัมฤทธิ์เมื่อเป็นศาลเทพารักษ์ประจำพระราชวังพญาไทสืบไป”
ท้าวหิรัญพนาสูร มีอีกชื่อว่า ท้าวหิรัญฮู ตามตำนานเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 2450 ครั้ง รัชกาลที่ 6 ณ ขณะยังไม่ทรงครองราชย์ ได้เสด็จประพาสเมืองลพบุรี คืนหนึ่งมีผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งได้มีนิมิตฝันประหลาดเห็นชายหุ่นล่ำสันใหญ่โตมาหา บอกว่าชื่อ “หิรัญ” เป็นอสูรชาวป่ามาบอกว่า ต่อแต่นี้เขาจะคอยตามเสด็จพระองค์ไม่ว่าจะประทับอยู่ที่ใด เขาจะคอยดูแลและระวังภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพระองค์ท่านได้ เมื่อทรงทราบเหตุการณ์ในฝันจึงทรงมีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียน จัดเตรียมอาหารเซ่นสังเวย “ท้าวหิรัญฮู” ในป่าเมืองลพบุรีนั้นทันที และทุกครั้งไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปแห่งหนใด ในเวลาค่ำถึงยามเสวย พระองค์จะมีพระราชดำรัสให้จัดอาหารเซ่นสังเวย “ท้าวหิรัญฮู” ทุกครั้งไป
ต่อมาเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ ได้พระราชทานให้อสูรตนนั้นว่า ท้าวหิรัญพนาสูร พร้อมให้ช่างหลวงมาหล่อรูปสัมฤทธิ์ มีการจัดเครื่องเซ่นสังเวย
มหาดเล็กคนสนิทผู้หนึ่งคือ “จมื่นเทพดรุณทร” ได้เล่าให้ข้าราชบริพารฟังต่อ ๆ กันมาว่า “ในหลวง (ร.6) ทรงเรียกท้าวหิรัญพนาสูรว่า “ตาหิรัญฮู” ซึ่งคนในวังสมัย ร.6 จะรู้ถึงกิตติศัพท์ของ “ตาหิรัญฮู” ดีว่าสำแดงเดชและอภินิหารอย่างไรบ้าง จึงเล่ากันปากต่อปากเรื่อยมา อย่างเรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อโปรดให้สร้างรูปท้าวหิรัญพนาสูร โดยให้พระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีแกลเลตตี นายช่างชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จก็จะยกขึ้นตั้งบนฐานในพระราชวังพญาไท แกลเลตตีก็เอาเชือกผูกคอท้าวหิรัญฮูชักรอกขึ้นไป เสร็จแล้วแกลเลตตีก็ป่วยกะทันหันทำงานไม่ได้ เพราะคอเคล็ดโดยไม่รู้สาเหตุ พอพระยาอาทรไปเยี่ยม ท่านพอจะรู้สาเหตุจึงบอกว่าคงเป็นเพราะเอาเชือกไปผูกคอรูปหล่อท้าวหิรัญฮูให้เอาดอกไม้ ธูป เทียนไปขอขมาเสีย เมื่อนายช่างชาวอิตาเลี่ยนทำตามคอที่เคล็ดจึงกลับมาเป็นปกติอย่างอัศจรรย์
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันหนึ่งพระองค์ได้เสด็จฯ ตรวจรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งเป็นพระราชมรดก โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ตามเสด็จ กรมหมื่นฯ ได้กราบทูลขอรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีรูปท้าวหิรัญฮูติดอยู่ด้วย พระองค์ก็พระราชทานให้ เล่ากันว่าเมื่อเอารถกลับไปไว้ที่วังสี่แยกหลานหลวง คืนนั้นก็นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงกุกกัก ๆ ในโรงเก็บรถทั้งคืน ครั้นลุกไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร จึงคิดว่าอาจเป็นเสียงหนู แต่ขณะที่กำลังคิดในทางที่ดีก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะจู่ ๆ ไฟในโรงรถก็เกิดสว่างจ้าขึ้นมาเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่โรงรถปิดอยู่ จึงเรียกคนขับรถและมหาดเล็กไปช่วยกันดู แต่พอเปิดประตูโรงเก็บรถก็ต้องใจหายเป็นครั้งที่ 2 เพราะไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย และยังน่าสงสัยที่เห็นรถจอดขวางโรง ซึ่งแต่แรกไม่ได้จอดในลักษณะนี้ จึงต้องช่วยกันกลับรถจอดใหม่ จากนั้นรุ่งขึ้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ต้องจัดเครื่องเซ่นสังเวยท้าวหิรัญฮูเพื่อขอขมา และไม่กล้าใช้รถพระราชทานคันนั้นอีกเลย
บทสวด บูชา ท้าวหิรัญพนาสูร
ธูป 16 ดอก
นะโม 3 จบ
“ระหินะ ภูมาสี ภะสะติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม 9 จบ