แต้ว ณฐพร เปิดใจเป็นแพนิก เครียดเพราะพยายามเพอร์เฟ็กต์ พร้อมอัปเดตชีวิตคู่
แต้ว ณฐพร เปิดใจเป็นแพนิก เครียดเพราะพยายามเพอร์เฟ็กต์ เคยหนักถึงขั้นต้องพึ่งยา พร้อมอัปเดตชีวิตคู่ ความสัมพันธ์กับไฮโซณัย
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถเป็นข่าวไปได้หมดเลยทีเดียว สำหรับนางเอกสาว แต้ว ณฐพร ล่าสุดเธอได้ออกมาเปิดใจกับ วู้ดดี้ วุฒิธร ผ่านรายการ WOODY FM โดยได้มีการพูดคุยถึงหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิต รัก และครอบครัว
เริ่มด้วยคำถามแรกสำหรับการตกเป็นข่าวตลอดเวลา สาวแต้วได้เล่าว่า เคยเป็นคนได้ฉายาว่าเป็นคนที่ไม่มีข่าว อยู่ดีๆ อะไรก็ไม่รู้ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำอะไรก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปหมด ทุกอย่างที่ใส่ไปในโซเชียลมีเดียคือการที่เราโพสต์ของเรา เราก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ยอมรับ โซเชียลมีเดียเป็นเหมือนไดอารี่ จะได้กลับมาดูว่าไปนี่ ไปนั่น แฮปปี้ ไม่แฮปปี้ แค่นั้น
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและไฮโซณัย เธอก็เล่าว่าเดตแรกก็แฮปปี้ นั่งคุยกินข้าวอาหารอร่อย ทุกอย่างมันก็ดี ปกติเราจะเป็นคนค่อนข้างแมน จัดการได้ทุกอย่าง ไม่ค่อยอ่อนแอ แต่กับเขาเราจะรู้สึกตัวเล็ก ๆ แล้วก็อ่อนแอ เขาเหมือนมีความเป็นผู้นำ เราเลยรู้สึกว่าโอเคยอมก็ได้ พร้อมยังรับว่าเขียนไดอารี่ถึงไฮโซณัยตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เจออีกด้วย
สำหรับเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิตของสาวแต้ว ก็คงไม่พ้นเรื่องที่เธอสูญเสียคุณพ่อไป แต่นอกจากนี้เธอยังเล่าว่าอีกเรื่องที่หนักมาก ๆ สำหรับเธอเช่นเดียวกันคือเธอเป็นแพนิค โดยเล่าว่า
“วิเคราะห์ตัวเองว่ามีอาการแพนิคก็ต่อเมื่อไม่โอเคกับสภาพร่างกาย เช่น หนาวเกินไป เจ็บปวด ปวดท้อง อะไรที่คอนโทรลไม่ได้เราก็จะแพนิค ฟีลลิ่งคืออยู่ไม่ติดที่ เราไม่สมควรจะอยู่ตรงนี้ มันไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัย แต่ไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน เคว้งคว้าง หายใจไม่เข้า ตะเกียกตะกายอยู่ข้างใน ข้างนอกอาจดูปกติ แต่ข้างในมันแย่
เป็นมา 4-5 ปีแล้ว ครั้งแรกเกิดขึ้นที่โรงพยาบาล เหมือนเครียด ด้วยความที่เราพยายามเพอร์เฟ็กต์ อยู่ดีๆ ก็ปวดท้องไม่มีสาเหตุ ตอนแรกที่เป็นกลัวไปหมดเลย กลัวมันจะมาอีก รู้ว่าจะข้ามมันไปได้เมื่อมียา เราเอายาไปทุกที่ แต่ก็มีโกลว่าเราจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่พึ่งเขาให้ได้ ค่อยๆ ฝึกลมหายใจ ลดยาลง
เหมือนเราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ผิดได้ไม่เป็นไร ล่าสุดแต้วไปเป็นที่เกาหลี ก็บอกคุณพ่อ พ่อก็บินจากกรุงเทพฯไปหาที่เกาหลี แล้วมากอด มาฮีลทุกอย่าง คือมันไม่ได้ดี ณ ตอนนั้นและ แต่มันคือกอดที่เราจำ เหมือนเค้าจะดูดทุกอย่างที่เรารู้สึกไปหาเขา”
อ่านข่าวเพิ่มเติม