วิธีใช้ช้อปดีมีคืน 2565 ลดหย่อนสูงสุด 3 หมื่นบาท ซื้ออะไรได้บ้าง
The Thaiger จะมานำเสนอถึง วิธีใช้ช้อปดีมีคืน 2565 ที่เป็นโครงการสนับสนุนการซื้อสินค้า โดยมอบส่วนลดหย่อนได้สูงสุดถึง 30,000 บาท
(22 ธ.ค. 2564) The Thaiger จะพาไปดูกันถึง วิธีใช้ช้อปดีมีคืน 2565 ที่ซึ่งเป็นโครงการเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีและผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น โดยมอบส่วนลดหย่อนได้สูงสุดถึง 30,000 บาท ใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565
วัตถุประสงค์โดยละเอียดของโครงการนั้นก็เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีและผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
เพื่อความเข้าใจง่ายแล้วนั้น ตัวโครงการจะมีใจความสำคัญดังนี้
– ตัวโครงการจะทำการมอบส่วนลดหย่อนสินค้าได้สูงสุดถึง 30,000 บาท (ค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า, ค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้า, การรับบริการ)
– สินค้า และบริการที่เข้าข่ายร่วมโครงการ : สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), หนังสือ (ยกเว้นในส่วนของนิตยสาร และหนังสือพิมพ์), สินค้า OTOP (ที่มีการลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน)
– สินค้า และบริการที่ “ไม่” เข้าข่ายร่วมโครงการ : ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น
– ผู้ที่สามารถใช้งานสิทธิ์ภายในโครงการดังกล่าว
- เป็นผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไม่เป็นผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่ง
– ระยะเวลาโครงการ : วันที่ 1 มกราคม 2565 – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565
แหล่งข้อมูลของข่าว : The Thaiger / ฐานเศรษฐกิจ
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ