ฟังความเห็น ทนาย ปม ‘บาสตี้’ ยูทูบเบอร์สาวข้ามเพศรับเลี้ยง ลูก ทำ คอนเทนต์ ดึงดราม่าเพื่อเรียกยอดวิว ลั่น ระวังกฎหมายสิทธิเด็ก!
จากกรณีข่าวของยูทูบเบอร์สาวข้ามเพศชื่อดัง ‘บาสตี้ ฐิติกร แจ่มแจ้ง‘ ทำคอนเทนต์เลี้ยงลูกดึงดราม่าเพื่อเรียกยอดวิวบนยูทูบ อาทิ แอบใส่พริกในอาหารลูก, จับลูกโยนลงน้ำ, บังคับลูกขึ้นหลังช้าง, พาลูกหนีสามีออกจากบ้านแค่ 2 คน, ฯลฯ จนกลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักบนโลกโซเชียล
หลังจากนั้นไม่นานทางยูทูบเบอร์สาวก็ได้มีการออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘บาสตี้v2‘ โดยระบุว่า
“ก่อนจะบอกว่าเอาเด็กมาหากินทำคอนเท้น เคยรู้ไหมว่าเบื้องหลังทำอะไรเพื่อลูกบ้าง
- เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่ทารก ชับพอร์ตทุกอย่าง อย่าเกลียดเพราะเราเป็นกะเทย กลัวว่าเด็กจะลำบากหรือเลี้ยงเขาไม่ดี เราเลี้ยงเค้าดี
มากจนถึงมากที่สุด - ส่วนเด็กที่ไม่มีพ่อคนนี้ เค้าก็ต้องการความรักไม่ต่างอะไรจากพวกคุณเลย เค้าได้รับความอบอุ่นจากเราไปไม่น้อยกว่าใคร
- อย่าพยายามยามเหยียบคนอื่นที่เค้าได้ดีกว่าให้จม เพราะแค่คุณไม่ชอบก็บล็อคไปแค่นั้นเอง
#บางคำพูดของพวกคุณทำให้เด็กหลายๆคนที่ด้อยโอกาสอาจจะหมดกำลังใจจากคนที่เขากำลังเลี้ยง”
ล่าสุด (21 พ.ย.) ทางด้านเฟซบุ๊กแฟนเพจทนายความชื่อดัง ‘ทนายตัวแสบ:Badass Attorney‘ ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว ลั่น ระวังกฎหมายสิทธิเด็ก โดยระบุว่า
“เราว่าคุณบาสตี้เข้าใจผิด
1.ไม่มีใครรังเกียจที่คุณเป็นLGBTQ เขาไม่โอเคเพราะเนื้อหาในคอนเทนท์และการเอาเด็กมาถ่ายทำ แม้สุดท้ายจะไม่มีการแกล้งลูกแบบคุณพาดหัวจริงก็ตามแต่มันไม่เหมาะสม
2. หากคุณยังไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายคุ้มครองเด็กผมยกมาให้อ่านตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
“มาตรา 26 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้
(1) กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
(2) จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือการรักษาพยาบาลแก่เด็กที่อยู่ในความดูแลของตน จนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
(3) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด
(4) โฆษณาทางสื่อมวลชนหรือเผยแพร่ด้วยประการใด เพื่อรับเด็กหรือยกเด็กให้แก่บุคคลอื่นที่มิใช่ญาติของเด็ก เว้นแต่เป็นการกระทำของ ทางราชการหรือได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้ว
(5) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการ ขอทานหรือการกระทาผิด หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก
(6) ใช้ จ้าง หรือวานเด็กให้ทำงานหรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจมีผลกระทบต่อการ เจริญเติบโต หรือขัดขวางต่อพัฒนาการของเด็ก
(7) บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กเล่นกีฬาหรือให้กระทำการใด เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการค้าอันมีลักษณะ เป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็กหรือมีลักษณะเป็นการทารุณกรรมต่อเด็ก(? ใช้หรือยินยอมให้เด็กเล่นการพนันไม่ว่าชนิดใดหรือเข้าไปในสถานที่เล่นการพนัน สถานค้าประเวณี หรือสถานที่ที่ห้ามมิให้เด็กเข้า
(9) บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่ง ค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด
(10) จำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก เว้นแต่การปฏิบัติทางการแพทย์ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งมีโทษตามกฎหมายอื่นที่หนักกว่าก็ให้ลงโทษตามกฎหมายนั้น”
“มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดย เจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือ ผู้อื่นโดยมิชอบ”
การนำเด็กมาทำเนื้อหาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองนั้นต้องระมัดระวังให้ดีครับ ถึงจะเป็นเด็กที่รับเลี้ยงอย่างถูกต้องก็ตาม
3.ผมไม่ได้เหยียดคุณผมเป็นห่วงเด็ก”