นายกฯ เป็นห่วงคลัสเตอร์โรงเรียนในมุกดาหาร เร่งให้ทุกหน่วยงานดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน ชื่นชมมีแผนเผชิญเหตุชัดเจน
“นายกฯ” เป็นห่วงคลัสเตอร์โรงเรียนในมุกดาหาร เร่งให้ทุกหน่วยงานดำเนินการแก้ปัญหาเร่งด่วน ชื่นชมมีแผนเผชิญเหตุชัดเจน
วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2564) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการทรวงกลาโหม เป็นห่วงและสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ กรณีพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร หลังเปิดเรียนได้ 3 วัน
โดยเบื้องต้น ทางโรงเรียนได้ดำเนินการตรวจคัดกรอง ด้วยชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) พบผลบวกในครูจำนวน 14 ราย และสุ่มตรวจในนักเรียน ผลเป็นบวก จำนวน 3 ราย รวมผล ATK เป็นบวก จำนวน 17 ราย จึงแจ้งทีมสอบสวนควบคุมโรค (CDCU) อ.นิคมคำสร้อย ทราบและลงพื้นที่เก็บสิ่งส่งตรวจเพื่อยืนยันผลตรวจทางห้องปฏิบัติติการทั้ง 17 ราย
ต่อมาทีม CDCU และกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สสจ.มุกดาหาร และศปก.อำเภอนิคมคำสร้อยได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก โดยทำการตรวจ ATK ในนักเรียนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน จำนวน 1,106 คน โดยแยกกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 160 ราย เพื่อเก็บสิ่งส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ (RT-PCR)โดยได้ผลตรวจครบถ้วน ผลเป็นลบไม่พบเชื้อทุกราย จึงปล่อยนักเรียนกลับบ้าน แต่ยังคงให้เฝ้าระวังตัวเองอย่างต่อเนื่องภายใน 7 วัน หากมีอาการเข้าข่าย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ดี ทางโรงเรียนจะดำเนินการทำความสะอาด และพ่นฆ่าเชื้อภายในโรงเรียนต่อไป ทั้งนี้ โรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนและบุคลากรไปแล้วกว่า 70% ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันแล้วในระดับหนึ่ง
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่มชมการดำเนินการของภาคส่วนต่าง ๆ ในจังหวัดมุกดาหารที่ดำเนินการได้รวดเร็วเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่ต้องสงสัยว่าเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของการบริหารงานภาครัฐ การบูรณาการการทำงานระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะ ประชาชน บุคลากรสาธารณสุขของทางจังหวัดและอำเภอ บุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรภาครัฐ ทำให้การรับมือต่าง ๆ ทั้งการคัดกรองแยกกลุ่มเสี่ยง การจัดหาสถานที่กักตัวและการสอบสวนโรคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ในวงจำกัดและในเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า การเปิดเรียนแบบ On-site ได้มีการประเมินความพร้อมของโรงเรียนเป็นอย่างดี รวมถึงมีมาตรการป้องกันทางสาธารณสุขที่เข้มงวด มีการเฝ้าระวังเชื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเปิดเรียนได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค ซึ่งในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะมีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และโรงเรียนสังกัดอื่นๆ เปิดเรียนออนไซต์เพิ่มมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจตรา ตรวจสอบให้ทุกโรงเรียนเข้มงวดมาตรการ 6-6-7 โดยยึดหลัก 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7 มาตรการเข้ม รวมทั้งปรับระบบและเตรียมแผนรองรับ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตรูปแบบปกติใหม่ เมื่อเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดจะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที พร้อมกันนี้ยังได้ชื่นชมโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรค์ จ.มุกดาหาร ที่ปฎิบัติตามมาตรการแผนรองรับได้อย่างดีเยี่ยม