‘ธนกร’ วอนอย่าบิดเบือนเจตนา ‘ประยุทธ์’ ปมสั่งปลูก ผักชี
ธนกร วอนอย่าบิดเบือนเจตนาของ ประยุทธ์ กรณีสั่งใช้พื้นที่ทหาร ปลูกผักชี ย้ำนายกมีเจตนาดีช่วยเหลือประชาชน
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวถึงกระแสโซเชี่ยลที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จากกรณีที่ นายกฯ สั่งใน ครม. ให้ปลูกผักชีในพื้นที่ทหารเพราะผักชีกำลังแพง
ว่าเป็นการตัดตอนคำพูดโดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ มีเจตนาดีตั้งใจช่วยเหลือประชาชน สั่งการให้ทุกส่วนราชการใช้ทรัพยากรของตนเองที่มีอยู่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งปกติพี้นที่ทหารที่ว่างก็จะมีการนำมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว เช่น ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ที่ผ่านมาพื้นที่ในหน่วยทหารก็ถูกนำไปใช้ประโยชน์หลายครั้งในหลายโอกาส
เช่น ตั้งโรงพยาบาลสนามในค่ายทหารช่วงวิกฤตโควิด ทั้งนี้เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจดี ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขให้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน นายกฯ ใส่ใจทุกปัญหาของประชาชน และที่ผ่านมาทุกปัญหานายกฯ จะสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนและให้ทำทันที
นอกจากนี้นาย ธนกร ยังกล่าวอีก ขณะนี้หน่วยงานอื่นๆ ก็มีมาตรการคู่ขนานออกมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาสินค้าพืชผักแพง เช่น กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการ Mobile พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน โดยจัดรถเคลื่อนที่จำนวน 50 คัน เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและผักราคาถูกทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาแม่ปุ๋ยราคาแพง เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลยังได้มีมาตรการต่างๆ ในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน กระตุ้นกำลังซื้อ ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
ธนกรยังกล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจที่รัฐมนตรีไม่ไปตอบกระทู้สดเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้น ขอยืนยันว่า ครม. ไม่ได้ละเลยการชี้แจง เพียงแต่ประเด็นกระทู้สดที่ถามด้วยวาจาไม่ใช่กระทู้ถามทั่วไป ทุกคนเพิ่งจะทราบตอนเช้า
ซึ่งมีนัดหมายการประชุม ครม. ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางท่านติดภารกิจเข้าร่วมประชุม COP26 ช่วงต้นสัปดาห์ รวมทั้งยังมีวาระ ครม. สำคัญต้องหารือในที่ประชุม ครม. เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยนายกฯ กำชับด้วยว่าให้รัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการไปชี้แจงข้อมูลต่อสภา เพราะจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกทางหนึ่ง รวมทั้งจะได้ชี้แจงการทำงานของรัฐบาลด้วย