พระมหาไพรวัลย์ โพสต์โต้พระยศเจ้าคุณ ‘ผมไม่ใช่พวกเล่นละครเก่ง’
ซัดกลับ พระมหาไพรวัลย์ โพสต์โต้ พระผู้ใหญ่ กรณีออกมาเตือนอย่าสำคัญตนผิด ระบุไม่ได้หวังต่อรองอะไร ถ้าลาสิกขาก็จะลาด้วยตัวเอง
จากกรณีที่ พระเทพปฏิภาณวาที หรือ “เจ้าคุณพิพิธ” แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเนชั่นทีวี กรณีที่ พระมหาไพรวัลย์ จะลาสึก เพราะเจ้าคุณอุทัยไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง
โดย เจ้าคุณพิพิธ กล่าวว่า พระมหาไพรวัลย์ อาจลืมไปว่าทุกสิ่งเกิดจากการกระทำของตัวทางเองทั้งนั้น พอเกิดการวิพาากษ์วิจารณ์ ท่านกลับบอกจะสึก นี่คือการต่อรองโดยเอ่ตัวเองเข้าต่อรอง แต่การทำบบนี้ก็ต้องดูดด้วว่าตัวเองมีคุณค่พอหรือไม่ ที่ว่ามีคนดูหรือติดตามเป็นล้านคน อาจจะดูด้วยความตลกก็ได้ ดูด้วยความแปลกใหม่ หรือความบ้าๆ บอๆ ก็ได้ ทำให้คิดไปได้ว่าตัวเองสำคัญ
เจ้าคุณพิพิธ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นท่านก็โทษไปที่ท่านสมเด็จคุณธงชัย ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ความจริงสมเด็จคุณธงชัย ไม่ได้มีอำนาจในการแต่งตั้งด้วยซ้ำ และยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวอะไรเลย ส่วนเรื่องที่จะทำหนังสือถึงสมเด็จธงชัย เพื่อขอขมาท่าน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่านเองเป็นคนไปพาดพิงหรือไปว่าท่านก่อนแล้ว แทนที่จะเอาเครื่องขอขมาเข้าไปหาท่าน แต่คุณกลับเล่นกับสื่อ เพื่อเอาสื่อไปบีบท่านให้ท่านแต่งตั้งเจ้าคุณอุทัยเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง วิธีการแบบนี้ไม่ถูกต้อง การกระทำแบบนี้ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายวัดสร้อยทอง ทำร้ายวิธีการเผยแพร่พุทธศาสนา
ทั้งนี้หลังบทสัมภาษณ์ของ เจ้าคุณพิพิธ ไม่นาน ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.64) พระมหาไพรวัลย์ ก็ออกมากล่าวถึงประเด็นดังกล่าวผ่านหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจของตัวเองโดยระบุว่า ถ้าผมจะลาสิกขา คือผมลาด้วยตัวผมเองครับ และทุกเรื่องที่ผมพูด ผมพูดเพราะมันคือความสัตย์ คือสิ่งที่ควรพูด ควรทวงถาม ไม่เกี่ยวกับว่า ผมกำลังสำคัญตัวอะไร
ผมไม่ใช่พวกเล่นละครเก่งนะครับ เวลาโทรมาคุย คุยอีกแบบหนึ่ง เวลาอยู่หน้าสื่อ พูดอีกแบบหนึ่ง พูดแบบนางเอกละครหลังข่าว พูดแบบไม่ต้องใช้ความกล้าหาญอะไร ใครก็พูดได้ครับ ผมก็พูดได้ ถ้าจะพูด
ผมว่าอาจารย์ดูหนังจีนเยอะไปนะครับ พูดเรื่องการศึกสงคราม เรื่องการต่อรองอะไรเนี่ย ความยุติธรรม ความเป็นธรรม เป็นเรื่องของการต้องต่อรองตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ หรือผมเข้าใจผิดมาโดยตลอด ผมนึกว่า เรื่องความเป็นธรรม เป็นเรื่องของการต้องส่งเสียงเรียกร้อง อาจารย์กำลังทำให้คณะสงฆ์ดูแย่ไปอีกนะครับ จะโดยรู้ตัวหรือไม่ พูดเหมือนคณะสงฆ์ไม่ต่างจากเกมส์การเมืองของพวกฆราวาสเลย
ผมรักการพระศาสนา รักคณะสงฆ์ และลึกๆ ก็เคารพนับถือพระผู้ใหญ่ (เหมือนที่ผมเคยเคารพนับถืออาจารย์นั่นแหล่ะครับ) ผมจึงพูดอะไรอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะของกัลยาณมิตร ของคนรุ่นใหม่ ของลูกของหลาน ผมเจียมตัวเสมอครับ และพูดคิดอะไร คือไตร่ตรองดีแล้ว หลายครั้งหลายหนเหลือเกินที่ผมเลือกจะไม่โต้อาจารย์เพราะยังเห็นแก่ความเคารพนับถือ ครั้งก่อนก็เรื่องความไม่ก้าวหน้า ไม่มีอนาคต ทำไมอาจารย์ถึงมองว่า อนาคตของอาจารย์กับอนาคตของผม คืออนาคตเดียวกันละครับ ผมเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงแบบที่อาจารย์คิดตอนไหน
อาจารย์เองก็โดนเยอะนะครับ ทั้งเรื่องสำนักงานตัวเองที่โดนเวียนคืน ทั้งเรื่องการเขียนกลอน เมื่อครั้งก่อน เรื่องพวกนี้ไม่ทำให้อาจารย์เห็นสัจธรรมอะไรเลยหรอครับ ขอประทานโทษเถอะครับ อย่าทำให้ผมหมดความนับถือเลย
ขณะเดียวกัน พระมหาไพรวัลย์ ยังโพสต์ถึงประเด็นนี้เพิ่มเติมอีก โดยระบุ “อาจารย์ดูแคลนลูกเพจผมน้อยไปแล้วนะครับ 55555555” พร้อมกับภาพที่ไฮไลท์ บทสัมภาษณ์ของเจ้าคุณพิพิธ ที่กล่าวว่า คนอาจจะดูด้วยความตลกก็ได้ ดูด้วยความแปลกใหม่ ความบ้าๆ บ้อๆ ประกาศสึกไปคงมีคนมาช่วย บอกไว้เลยคงไม่มีคนมาช่วยหรอก