รัฐบาล ‘อังกฤษ’ ถูกกดดัน หลัง ‘โควิด’ เพิ่มสูงอีกรอบ
รัฐบาล อังกฤษ เจอแรงกดดันหนักหลัง โควิด เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดในทวีปยุโรป เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้เร็วขึ้น
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ทางการอังกฤษต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้ทางการอังกฤษกลับมาใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากที่ยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราเพิ่มสูงสุดในทวีปยุโรป
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทางการอังกฤษพบผู้ป่วยใหม่กว่า 49,000 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ป่วยใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่เฉลี่ย 43,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากสัปดาห์ที่ผ่านมา
ย้อนกลับในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ประกาศยกเลิกการใช้มาตรการโควิด รวมไปถึงการบังคับสวมหน้ากาก และ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้สถานบันเทิงและสถานที่จัดงานต่างๆสามารถกลับมาเปิดทำการได้โดยเต็มความจุ
ทั้งนี้ไม่ใช่ที่นาย จอห์นสัน ประกาศยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด ประชาชนจำนวนหนึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นว่าทางการเลือกที่จะผ่อนมาตรการโควิดเร็วเกินไป ซึ่งอีกปัจจัยหนึ่งคือทางการอังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนเร็วเกินไป โดยวัคซีนเข็มแรกถูกฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มคนชราตั้งแต่เดือนธันวาคม กล่าวคือมีประชาชนกว่าล้านคนที่มีภูมิต้านทานลดลง นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังได้ระบุว่าวัคซีนที่อังกฤษเลือกใช้คือแอสตราเซเนกาที่มีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อเจอโควิดเดลต้า
โดยขณะนี้ทางการอังกฤษเสนอให้ประชาชนสามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ อย่างไรก็ตามกระบวนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นดำเนินไปอย่างล่าช้า