ข่าวข่าวอาชญากรรม

ศาลฎีกา ยกฟ้อง ‘หมอนิ่ม’ คดีจ้างวานฆ่า ‘เอ็กซ์-จักรกฤษณ์’

สิ้นสุดแล้ว! ศาลฎีกา มีคำพิพากษา ยกฟ้อง ‘หมอนิ่ม’ คดีจ้างวานฆ่า ‘เอ็กซ์-จักรกฤษณ์’ ส่วน ทนายอี๊ด ยึดประหารชีวิตตามเดิม

ศาลอาญามีนบุรีมีอ่านคำพิพากษาคดี จ้างวานฆ่านาย เอ็กซ์ หรือ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 50 ปี มือปืน, นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี มารดาหมอนิ่ม , พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 45 ปี อดีตภรรยาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์, นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 35 ปี ทนายความ และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 38 ปี คนขี่จักรยานยนต์ เป็นจำเลย 1-5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ

Advertisements

โดยคดีนี้นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาผู้ตายได้ยื่นคำร้องขอให้จำเลย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย

คำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า ระหว่างเดือน ส.ค. – 19 ต.ค. 2556 จำเลยที่ 2-4 ร่วมกันจ้างวานให้ จำเลย 1 กับพวกที่หลบหนี ใชัอาวุธปืนยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตโกเรฟ ขนาด 7.62 มม. ฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 41 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ตามร่างกายหลายนัดจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) แขวงและเขตมีนบุรี กทม.

ซึ่งศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2559 ให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ว่าได้ร่วมกันกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289(4) และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ฯ ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1 และที่ 5 และให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 และที่ 4 โดยยกฟ้องจำเลยที่ 2 กับให้จำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้อง

โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 84 ให้จำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยที่ 2 ร่วมชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้โจทก์ร่วมและผู้ร้องด้วย ส่วนจำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้องและให้ยกคำร้องขอชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนของจำเลยที่ 3 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ต่อมา นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืน, นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดา พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 1 และ 2 ยื่นฎีกา

Advertisements

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และที่ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลย ก็ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

สำหรับพฤติการณ์การกระทำผิดของนางสุรางค์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ยายผู้ตาย ศาลฎีกาเห็นว่าเกิดจากการที่ผู้ตายกระทำต่อพญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่มจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของจำเลยที่ 2 ครั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งยังกระทำต่อหน้าหลานเล็ก ๆ ของจำเลยที่ 2 อันเนื่องมาจากปัญหาการควบคุมอารมณ์ของผู้ตาย

โดยก่อนเกิดเหตุมีความไม่แน่นอนว่าผู้ตายซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืน มีอาวุธปืนอาจใช้อาวุธปืนของตนกระทำต่อจำเลยที่ 3 และครอบครัวในขณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เป็นได้เพราะก่อนเกิดเหตุเพียง 2 เดือนก็ยังใช้อาวุธปืนยิงไปทางคนรับใช้และบุตรคนเล็กจนผู้ตายถูกจับและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำและเพิ่งได้รับการประกันตัวมาไม่นาน การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปีและบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน

จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 78 ที่ศาลอาจลดโทษได้ให้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง และตาม ป.อ.มาตรา 52 ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้จำเลยที่ 2 เพียงหนึ่งในสามและคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก

จึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และจำเลยที่ 2 กระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่งตาม ป.อ มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุก 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

สรุปข้อมูลคำพิพากษาฎีกา “คดีฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม…

โพสต์โดย สื่อศาล เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2021

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button