ไฟเซอร์นักเรียน สร้างเทรนด์ไม่ฉีดวัคซีน ฮิตปั่นคอนเทนต์ลง TikTok

Pacharaเผยแพร่: 07 ต.ค. 2564 15:46 น.| อัปเดต: 07 ต.ค. 2564 15:46 น.

113

ดราม่า ไฟเซอร์นักเรียน ปั่นกระแสไม่ฉีดวัคซีนจนเป็นเทรนด์ นักเรียนบางกลุ่มแห่กันทำตาม หลังพบคลิปผลข้างเคียงโผล่เต็มบัญชี TikTok

หลังจากแผนเดินหน้าฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียนเริ่มคิกออฟ ไปเมื่อวันที่4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียน อายุระหว่าง 12-18 ปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และรองรับการเปิดภาคเรียน เป็นการฉีดวัคซีนนักเรียนเข็มแรกพร้อมกัน 15 จังหวัด ใน 13 เขตสุขภาพ

Advertisements

ล่าสุดมาถึงวันนี้ (7 ต.ค.64) หลังผ่านมาได้ไม่ถึงสามวันดี ก็เกิดกระแสในกลุ่มนักเรียนบางกลุ่มสร้างกระแสไม่รับวัคซีน โดยต้นเหตุเกิดจากมีการส่งต่อข้อมูลใน แอปพลิเคชัน TikTok ซึ่งเป็นคลิปที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ จนเกิดมีการสร้างเทรนด์ไม่รับวัคซีนไฟเซอร์ ทำให้นักเรียนจำนวนมากเริ่มตามกระแสต่อต้านวัคซีน

นอกจากนี้ยังมีการแชร์ข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ ที่ทำให้เชื่อว่ามีคุณภาพเทียบเท่ากับวัคซีนซิโนแวค ประสิทธิภาพต่ำ จนทำให้เด็กไม่กล้าฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียงที่ตามมา

กระแสต่อต้านวัคซีนในเด็กถูกพูดถึงมากถึงขนาด #ไฟเซอร์นักเรียน พุ่งขึ้นอันดับ 1 บนเทรนด์ทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันก็มีรายงานว่ายังมีกลุ่มเด็กนักเรียนที่ต้องการจะฉีดวัคซีน แต่จำนวนของวัคซีนมีไม่พอให้เข้ารับการฉีดด้วยเช่นกัน

ไฟเซอร์นักเรียน ฉีดวัคซีน — ภาพ : Twitter @agirlwhodiesoon

ทั้งนี้ จากเอกสารเผยแพร่ข่าวจากระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ. กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับกลุ่มนักเรียน มีผู้ปกครองแสดงความจำนงให้บุตรหลานฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 3,618,000 กว่าราย คิดเป็น 71% ของตัวเลขนักเรียนทั่วประเทศ 5,048,000 ราย จากฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ

ขณะที่คำแนะนำจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า เด็กและวัยรุ่นอายุ 16-18 ปี ขึ้นไป ทุกรายไม่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน