ครม. มีมติเห็นชอบ ให้มีการปรับโครงสร้าง ภาษีสรรพสามิตบุหรี่ โดยทำการจัดเก็บในอัตราที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564
ในวันนี้ (29 ก.ย. 2564) – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ทำการเปิดเผยถึงมติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้เห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้าง ภาษีสรรพสามิตบุหรี่ โดยทำการเก็บในอัตราที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่นั้น จะมีการปรับขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า โดยภาษีด้านปริมาณจะเพิ่มจากมวนละ 1.20 บาท หรือซองละ 24 บาท เพิ่มเป็นมวนละ 1.25 บาท หรือเสียภาษีซองละ 25 บาท ส่วนภาษีด้านมูลค่า ได้ขยับทั้งอัตราภาษีและฐานราคาขายปลีกใหม่
ซึ่งเดิมบุหรี่ราคาขายปลีกไม่เกินซอง 60 บาท จะเสียภาษี 20% ปรับเพิ่มเป็นบุหรี่ขายปลีกไม่เกินซอง 72 บาท เสียภาษีเพิ่มเป็น 25% ส่วนบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกเกินซอง 72 บาท จะเสียภาษีเพิ่มจาก 40% เป็น 42%
ทั้งนี้ อัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่จะมีผลให้ราคาบุหรี่ในท้องตลาดปรับเพิ่มขึ้นด้วย โดยจากการคำนวณเบื้องต้น หากมีการจัดเก็บภาษีอัตราใหม่จะทำให้บุหรี่ขายปลีกที่มีราคาซอง 55 บาท อาจเพิ่มขึ้นเป็น 64 บาท ส่วนบุหรี่ซอง 60 บาท จะมีโอกาสปรับขึ้นสูงสุดได้ถึง 70-72 บาท
ส่วนกลุ่มบุหรี่กลุ่มราคาสูงที่ได้รับความนิยม เช่น ซอง 95 บาท อาจขึ้นเป็น 110-115 บาท โดยรายละเอียดทั้งหมดจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาวันที่ 30 ก.ย.64 เพื่อให้มีผลบังคับเริ่ม 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป
“การขึ้นภาษีดังกล่าวถือเป็นการขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะทำให้บุหรี่ขายได้ลดลงกว่าเดิม เพราะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่ดี โดยหลังจากนี้ผู้ผลิตบุหรี่ทั้งในและต่างประเทศ จะมีการวางแผนทำตลาดและกำหนดราคาอีกครั้ง โดยอาจจะขึ้นราคาบางชนิดเพื่อรักษากำไร รวมถึงอาจยอมขายราคาเท่าเดิม และมีกำไรลดลง เพื่อรักษาส่วนแบ่งของตลาดไว้”
แหล่งที่มาของข่าว : เดลินิวส์
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- ธอส. จัด 2 โปรโมชั่น ฉลองครบรอบ 68 ปี วันนี้
- ภาษีบุหรี่ใหม่ มีผล 1 ต.ค.นี้ สิงห์อมควันเตรียมรับมือบุหรี่แพงขึ้น