ของดีเมืองไทย แนะนำ 8 อุทยานแห่งชาติ สวยที่สุดในไทย
แนะนำ 8 อุทยานแห่งชาติ ของดีเมืองไทย รวบรวม 8 อันดับอุทยานแห่งชาติจากทุกมุมประเทศที่น่าเที่ยวสุด ๆ วิวดี มีเอกลักษณ์ ต้องไปสัมผัสให้ได้
ประเทศไทยเป็นดินแดนมหัศจรรย์อย่างแท้จริง แม้นักท่องเที่ยวจะมีประสบการณ์เยอะแต่สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ยังทำให้ตื่นตาตื่นใจได้เสมอ ยิ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติในไทยก็เชื่อใจได้เลยว่าจะไม่ทำให้ใครผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการตั้งแคมป์ ต้องการสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนของป่าเขาและสัตว์ป่านานาชนิด การเที่ยวอุทยานเป็นตัวเลือกที่น่าจะถูกใจคุณอย่างแน่นอน เพราะคุณจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในผืนป่าแบบใกล้ชิด พักผ่อนหย่อนใจกับแหล่งน้ำตามธรรมชาติ จะค้างแรมหรือจัดทริปไปเช้าเย็นกลับก็ชาร์จพลังได้เต็ม ๆ ไม่แพ้กัน จะมีอุทยานอะไรที่เราคัดสรรมาให้กันบ้าง ตามไปดูกันเลยกับ แนะนำ 8 อุทยานแห่งชาติ ของดีเมืองไทย
1. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว (ขณะนี้เปิดบางแหล่ง)
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติพืชพรรณและสัตว์ป่ายาวถึง 1.2 กิโลเมตร ภูมิศาสตร์ที่มีความคล้ายคลึงกับป่าดงดิบ มีอากาศชื้นอยู่ตลอดเวลา ผืนป่าที่มีแต่ความเขียวขจี และแอ่งน้ำสีเขียวมรกต พร้อมจุดชมวิวและจุดตั้งเต็นท์ที่ทางอุทยานจัดเตรียมไว้ให้คุณมาพักค้างแรมได้ นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นและวิวชายหาดแหลมสิงห์ที่ทอดตัวไปกับทะเลได้แบบเต็มอารมณ์
ทีเด็ดของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วคือ ปลาพลวงหิน ที่อาศัยอยู่ตามลำธารธรรมชาตินับหมื่นตัว รวมถึงแหล่งน้ำตามทางที่คอยให้คุณลงไปรับความชื่นฉ่ำของสายน้ำเย็น ๆ ได้ตลอดทริปเพราะน้ำตกพลิ้วไม่เคยแห้งขอด มีน้ำไหลตลอดปี และไม่ต้องกังวลว่าท้องจะว่างเพราะที่นี่ยังมีร้านค้าสวัสดิการที่คอยบริการตั้งแต่ 7.00-17.00 น. ให้คุณซื้อตุนได้เต็มที่ โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตำบลพลิ้ว อำเภอลำแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ประเทศไทย
2. อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา (ขณะนี้เปิดบางแหล่ง)
เขาพนมเบญจาจะมีไอหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ภูมิศาสตร์เป็นเทือกเขาสูงที่มีความสลับซับซ้อน ความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้อุทยานแห่งไหน มีทั้งลำธาร น้ำตกและสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ถ้าคุณโชคดีพอคุณอาจจะได้เห็นสัตว์ป่าสงวนอย่างสมเสร็จ เลียงผา รวมถึงสถานที่เที่ยวภายในอุทยาน ทั้งยอดเขาพนมเบญจา น้ำตกห้วยโต้และคอนางนอน โดยที่นี่ยังรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาค้างแรมอีกด้วย จะเลือกเป็นบ้านพักในอุทยานหรือกางเต็นท์ก็ทำได้ตามใจ สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
3. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
อุทยานที่เคยมีตำนานมากมาย บ้างก็ว่าที่นี่เคยเป็นเกาะมาก่อนมีชื่อว่า เกาะสามร้อยยอด แต่ต่อมาระดับน้ำลดลงจนพื้นที่นี้กลายเป็นเทือกเขาสูงและกลายมาเป็นเขาสามร้อยยอดในทุกวันนี้ บ้างก็ว่าเพราะมีต้นไม้ชื่อสามร้อยยอด จึงกลายเป็นชื่อของเขาแห่งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณสัมผัสได้จริงโดยไม่ต้องรอคำเล่าขานอะไรก็คือทัศนียภาพที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดแห่งนี้ ตั้งแต่วิวผาอย่างจุดชมวิวเขาแดง วิวสายน้ำกับจุดล่องคลองเขาแดง หรือวิวทะเลที่หาดสามพระยาและหาดแหลมศาลา เข้าสู่ความก้องกังวานกับถ้ำพระยานคร ซึ่งคุณยังสามารถกางเต็นท์ค้างแรมได้ตามจุดต่าง ๆ ของอุทยานอีกด้วย สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ปิดชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19)
อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2505 ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และยังเป็นอุทยานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย ครอบคลุมถึง 4 จังหวัด นครศรีธรรมราช ปราจีนบุรี สระบุรีและนครนายก เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่านานาพรรณ พร้อมแหล่งท่องเที่ยวมากมายภายในอุทยาน ทั้งน้ำตกผากล้วยไม้ น้ำตกธารทิพย์ น้ำตกเจ็ดคต น้ำตกสาริกา หรือน้ำตกชื่อท้าทายความกล้าแต่วิวสวยอย่าบอกใครอย่าง น้ำตกเหวนรก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสำหรับศึกษาธรรมชาติมากมายที่รอต้อนรับการไปของคุณอยู่ที่เขาใหญ่ สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
5. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาตินี้มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เหมาะสำหรับการชมวิวแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก ความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของผาแต้ม คือ ภาพวาดด้วยมือและภาพวาดสัตว์ต่าง ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 3,000 ปี เป็นที่มาของชื่ออุทยานแห่งนี้
และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมายภายในอุทยาน ทั้งทุ่งดอกไม้งาม ลานหินแตก น้ำตกแสงจันทร์ และจุดที่คุณสามารถชมแสงแรกในสถานที่ที่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศที่ผาชะนะได พิเศษกว่าเดิมคือทะเลหมอกชวนฝันในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาวที่จะออกมาให้คุณได้ชื่นชมและเก็บความประทับใจไม่รู้ลืม สำหรับอุทยานแห่งชาติผาแต้มมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
6. อุทยานแห่งชาติเขาสก (ขณะนี้เปิดบางแหล่ง)
อุทยานแห่งแดนใต้ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการพักค้างแรม ถ้าคุณจะเลือกไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาสกแล้วล่ะก็คุณควรจะวางแผนแพ็กกระเป๋าไว้สักสองสามวัน เพราะอุทยานแห่งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนุกมากมาย ได้ทั้งใกล้ชิดธรรมชาติและได้ความสนุกสุดเหวี่ยงอีกด้วย อย่างกิจกรรมพายเรือแคนู ชมทิวทัศน์ตระการตารวมถึงหมอกในยามเช้าของเขื่อนเชี่ยวหลาน พักผ่อนในบ้านแพลอยน้ำ หรือจะเที่ยวน้ำตกเจ็ดชั้น น้ำตกธารสวรรค์ ไปชมหินงอกหินย้อยที่งดงามภายในถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำประกายเพชร สถานที่ท่องเที่ยวละลานตาแบบนี้ บอกไว้ก่อนเลยว่าเที่ยววันเดียวไม่พอ สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาสกมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาสก ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
7. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (ขณะนี้เปิดบางแหล่ง)
อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น โดยชื่อของอุทยานมาจากสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ น้ำตกเอราวัณ ที่มีลักษณะคล้ายกับช้าง 3 เศียรตามตำนานฮินดู โดยน้ำตกเอราวัณสูงถึง 7 ชั้น แต่ละชั้นก็พาให้คุณพบกับความสวยงามที่ต่างกันไป เรียกได้ว่ายิ่งสูงยิ่งสวย จากนั้นไปศึกษาเส้นทางตามธรรมชาติที่มีความน่าตื่นตารออยู่ ทั้งกล้วยไม้รองเท้านารี นกกก ผีเสื้อปลายปีกส้มใหญ่ และกางเต็นท์พักแรมเพื่อรอชมความงามยามเช้าของแม่น้ำแควใหญ่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สำหรับอุทยานแห่งชาติเอราวัณมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
8. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ขณะนี้เปิดบางแหล่ง)
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตั้งอยู่ใกล้กับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติตะนาวศรี ชายแดนพม่า ซึ่งอาจจะมีสัตว์ป่าจากประเทศเพื่อนบ้านลงมาหากินถึงเขตอุทยาน จึงเป็นแหล่งรวมพันธุ์สัตว์ป่ามากมาย และยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำปราณบุรีและเพชรบุรีอีกด้วย เรียกได้ว่ารวมความอุดมสมบูรณ์ไว้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้คุณยังสามารถกางเต็นท์ตั้งแคมป์ได้ที่พะเนินทุ่งเพื่อรอชมทะเลหมอกยามเช้าตรู่ และชมทัศนียภาพที่สวยงามของเขื่อนแก่งกระจานได้อีกด้วย สำหรับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีอัตราค่าบริการ ดังนี้
- ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท
- ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง อย่ารอช้าและเตรียมแพ็กกระเป๋าเพื่อรอวันได้เดินทางเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติกันได้เลย
อ้างอิงจาก: park.dnp.go.th portal.dnp.go.th