ข่าวข่าวภูมิภาค

ศบค. เผย เปิดร้านอาหาร โดยมีผู้รับประทานได้ 50% เริ่ม 1 ก.ย.

ศบค. อนุญาตให้ เปิดร้านอาหาร โดยมีลูกค้านั่งทานในร้านได้ พร้อมเปิดร้านเสริมสวย และ ร้านนวด เริ่มใช้ 1 ก.ย. นี้ ขณะที่เคอร์ฟิวยังอยู่

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ออกมาพูดถึงผลการประชุมที่ของที่ประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเป็นประธานนั้น

Advertisements

ซึ่งในที่ประชุมนั้นระบุว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศไทยขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกซะส่วนใหญ่ โดยที่ประชุมตั้งเป้าจะใช้นโยบายการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด-19

พญ.อภิสมัย ระบุว่าที่ประชุม ยกระดับมาตรการโควิด สำหรับเปิดกิจการ/ปลอดภัย และยั่งยืนด้วยหลัก COVID-Free Setting และ Universal Prevention สำหรับกลุ่มเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง

นอกจากนี้จะมีเปิดกิจการ และ กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และ เข้มงวด ภายใต้มาตรการที่กำหนด ได้แก่

  • การเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้
  • การเปิดบริการของร้านอาหาร ประเภทร้านอาหาร ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โล่ง อากาศถ่ายเทดี ให้นั่งรับประทานได้ 75 % ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 % ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้ประกอบการ สมาคมภัตตาคารไทย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
  • การปรับมาตรการสำหรับกิจการห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า, คอมมูนิตี้ มอลล์
  • การเปิดกิจการบางประเภท ได้แก่ ร้านเสริมสวย และ ร้านนวดเท้า ในส่วน กิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่ สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องจัดประชุม/จัดเลื้ยง
  • การใช้อาคารสถานศึกษา
  • การใช้สนามกีฬา

นอกจากนี้ทาง พญ.อภิสมัย ยังได้บอกถึงแนวทางของ Universal Prevention หรือการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันโควิดของทุกคนไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือประชาชนธรรมดา ซึ่งได้แก่

  • ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น
  • ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีและมีโรคเรื้อรังเลี่ยงออกจากบ้าน
  • เว้นระยะห่าง 1-2 เมตรทุกสถานที่
  • สวมหน้ากากอนามัยทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา
  • หลีกเลี่ยงใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย
  • ล้างมือบ่อยๆ
  • ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ
  • แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด
  • เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุก
  • หากสงสัยว่าติดเชื้อ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK

ทั้งนี้ยังคงมีมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น และมาตรการการปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work From Home) ยังคงใช้ต่อไปอย่างน้อย 14 วัน

Advertisements

โดยมาตรการเริ่มใช้ในวันที่ 1 กันยายน นี้

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button