‘เต้-มงคลกิตติ์’ เชิญ ‘ประวิตร’ เป็นกรรมการ หลัง ท้าชกประยุทธ์
เต้-มงคลกิตติ์ เอ่ยปากชวน บิ๊กป้อม เป็นกรรมการ หลัง ท้าชกประยุทธ์ พร้อมประกาศลั่นจะใช้มือขวาข้างเดียว เพราะไม่อยากรังแกคนแก่
นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ ที่รัฐสภา ถึงกรณีที่ท้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดเชือกท้าต่อย โดยตำแหน่งเป็นเดิมพัน จนเกิดเสียงฮือฮาในสื่อสังคมออนไลน์มาแล้วนั้น
โดยนาย มงคกลกิตติ์ ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์มีม็อบ และเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยากอยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยไม่สนใจเสียงหัวใจของประชาชนที่ตายกันทุกวัน เงินกู้ที่นายกฯใช้จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ รวม 1.5 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมเงินกู้ขาดดุลงบประมาณอีกปีละ 1 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องอีก 2 ปี ดูแล้วไทยจะไร้อนาคต และยังหาทางออกให้ประชาชนไม่ได้ แต่ ส.ว.กับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดึงดันที่จะรักษาตำแหน่ง ให้นายกฯ
“เมื่อวานนี้ (19 สิงหาคม) เป็นวันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากบ้านมาทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เวิร์กฟรอมโฮมมาโดยตลอด หลังจากที่อยู่ในรู เอ้ย อยู่ที่บ้าน ประเทศไทยจึงเหมือนไม่มีนายกฯ ความผิดพลาด และความล้มเหลวในการจัดการวัคซีน มีแต่ไฟเซอร์บริจาค ของจริงคงจะมาอีก 3 เดือนข้างหน้า คนคงตายมากกว่านี้
ผมอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ทำเหมือนนายกฯมาเลเซีย ที่เข้าเฝ้าฯและลาออก เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านคน ที่มีจำนวนพอๆ กับเรา แต่ผมยังไม่เห็นความรับผิดชอบทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์เลย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่เพื่อประชาชน แต่อยู่เพื่อตนเอง พวกพ้อง และครอบครัว ท่านไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ แต่ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย และเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า หนี้ประชาชน และหนี้รัฐบาลเกิน 60% ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้
“ดังนั้น เพื่อยุติปัญหาทุกอย่าง ผมขอสวมหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทั้งประเทศ ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ มาต่อยกัน ที่สนามมวยลุมพินี เป็นแบบมวยคาดเชือก เดี่ยว 1 ต่อ 1 ไม่ต้องส่งตัวแทนมา เพราะตัวแทนไม่ใช่นายกฯ ผมน้ำหนัก 79 กิโลกรัม พล.อ.ประยุทธ์ก็น้ำหนักประมาณเดียวกัน อายุห่างกัน 27 ปี
ผมไม่ต้องการรังแกคนชรา จึงจะขอใช้แค่มือขวามือเดียว พันผ้าก๊อซที่มือกับเข่าเท่านั้น ผมไม่ใช่นักมวย แต่เคยเป็นครูสอนเพาะกายมาก่อน จึงเคลื่อนไหวไม่เร็วมาก แต่ขอแค่หมัดเดียว ชก 3 นาที 3 ยก ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นกรรมการ หาก พล.อ.ประยุทธ์ แพ้ จะต้องสัญญากับประชาชนว่าจะลาออกจากนายกฯทันที เพื่อเปิดทางให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้” นายมงคลกิตติ์กล่าว
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า หากตนแพ้ ก็หมายความว่าประชาชนแพ้ด้วย ตนก็จะต้องลาออกจาก ส.ส.ทันทีเช่นกัน นี่คือสิ่งที่ตนให้คำสัตย์ไว้ ตนขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ว่า ภายในวันที่ 30 สิงหาคม หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับคำท้า จะถือว่าหน้าตัวเมีย ใจปลาซิว เสียชื่อกองทัพบก เพราะเคยเป็นอดีตผู้นำเหล่าทัพ เรื่องนี้ใช้กีฬา และสันติวิธีเป็นตัวตัดสิน
ใครจะมายื่นสอบจริยธรรมก็ไม่ได้ เพราะต่อยที่สนามมวย เป็นไปตามกติกาสากล ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่สามารถรักษาบ้านเมืองไว้ได้ และจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุขต่อไป เพื่ออิสรภาพของประชาชน การต่อยไฟต์นี้ เป็น 10 fight 10 ที่จะปลดแอกจากระบอบประยุทธ์ และระบอบ คสช. เดิมที่ยังเหลืออยู่บ้าง และประชาชนจะได้ไม่ต้องเกณฑ์ม็อบกันทั่วประเทศ ให้เสียเวลา และทำให้ผู้ติดเชื้อมากขึ้นด้วย หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้า ก็รีบเซ็นใบลาออก หากใจปลาซิวก็ถือว่าไม่ใช้ลูกผู้ชาย เสียชื่อนักเรียนนายร้อย จปร. ด้วย
ด้านผู้สื่อข่าวได้ ถาม นายมงคลกิตติ์ ว่า ต้องการพื้นที่สื่อใช่หรือไม่ ซึ่ง ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลซ์ ปฏิเสธ เพราะตนมีพื้นที่สื่ออยู่แล้ว ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีข้อมูล แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอาศัยเสียงยกมือ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกอภิปรายแล้วอาจจะถูกโหวตออก หรือลาออกไป แต่ยังอยู่ในบัญชีนายกฯอยู่ แต่หากแพ้คาเวที พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มีหน้าที่จะเป็นนายกฯ ต่อไปอีกแล้ว