สธ. แจง ยอดตายนิวไฮ เพราะยอดตกหล่นตั้งแต่ เม.ย.
กระทรวงสาธารณสุข แจงเหตุผลถึงสาเหตุที่ ยอดตายนิวไฮ ในวันที่ 18 สิงหาคม ชี้ยอดตายตกหล่นตั้งแต่เดือนเมษายน จากการรายงานล่าช้า
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยในวันนี้ ประเทศไทยพบการติดเชื้อใหม่ 20,515 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- วันที่ 18 ส.ค.64 สะสม 940,094 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 312 ราย จำนวนผู้รักษาหายเพิ่ม 22,682 ราย ซึ่งสูงกว่าการติดเชื้อใหม่ จึงเป็นสัญญาณที่ดีของระบบรองรับผู้ป่วยตามที่มีการใช้มาตรการแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) เมื่อรักษาครบ 14 วัน ก็ถือว่าหายป่วย ทั้งนี้ นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงสถิติการเสียชีวิต ว่า หลายประเทศจะดูการเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน เพราะระบบจะมีการตรวจสอบข้อมูลตกหล่นเป็นระยะ
“ดังนั้น ต้องเรียนว่าสำหรับผู้เสียชีวิต 312 ราย ของประเทศไทยวันนี้ จึงไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิต แต่มีประมาณ 100 ราย ในเกือบ 20 จังหวัด ที่รายงานช้า โดยมี 50 ราย พบข้อมูลวันที่เสียชีวิตก่อนเดือน ส.ค. บางรายย้อนหลังไปจนถึงเดือน เม.ย. และอีก 50 ราย เสียชีวิตช่วงต้นเดือน ส.ค. เนื่องจากบางรายไม่ได้เข้าโรงพยาบาล (รพ.) แต่มีการเสียชีวิต จึงต้องชันสูตรหาสาเหตุ ซึ่งก็เจอว่าติดเชื้อโควิด-19 ซี่งแปลว่า หากไม่รวมจำนวนตกหล่น ยอดการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 200 กว่าราย” นพ.เฉวตสรรกล่าว
นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิต 312 ราย พบว่าเป็นผู้ไม่เคยรับวัคซีนโควิด-19 รวม 147 ราย คิดเป็น ร้อยละ 47 ซึ่งมี 1 ราย เป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เวรเปล รพ.แม่สอด โดยมีโรคประจำตัวที่เป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพ
ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ได้รับวัคซีนแล้วเพียงเข็มที่ 1 มี 33 ราย ซึ่งปกติการหวังประสิทธิภาพ ประสิทธิผลจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต ต้องฉีดครบสูตรตามกำหนดและนับหลังจากเข็มที่ 2 ครบแล้วไปอีก 14 วัน จึงจะเกิดภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ และยังอีก 132 ราย คิดเป็น ร้อยละ 42 ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล
“หากตัดส่วนที่รอตรวจสอบข้อมูล จะเห็นว่าทั้งหมดที่เสียชีวิตคือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย หรือฉีดยังไม่ครบ ดังนั้น เราจึงย้ำความสำคัญในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ต้องติดตามข่าว ลงทะเบียนฉีดตามสิทธิ และอย่าลังเล การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิการตัดสินใจของเจ้าตัว ควรศึกษาข้อมูลให้มั่นใจ แต่ทางวิชาการยืนยันว่าวัคซีนปลอดภัย มีประสิทธิผลสูง ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโควิดไปด้วยกัน” นพ.เฉวตสรรกล่าว
นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อไปว่า การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ตลอดเวลา หรือเรียกว่า การป้องกันการติดเชื้อครอบจักรวาล (Universal Prevention for Covid-19) ต้องตื่นรู้ตลอดเวลาในการระวังตัวเอง ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นผู้ทำงานใน รพ. ที่จะถูกสอนให้ป้องกันตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่เราจะขยายไปถึงประชาชนที่ใช้ชีวิตปกติ ก็ทำป้องกันตลอดเวลา แม้ไม่มีความเสี่ยง คิดเสมอว่าคนรอบตัวที่จะสนิทหรือไม่ ก็อาจมีเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ของเราจะทำให้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อ และต้องคิดเสมอว่า ตัวเราเองอาจติดเชื้อแฝงอยู่ การป้องกันเต็มที่ก็จะช่วยให้คนใกล้ตัวเราปลอดภัย