ข่าวภูมิภาค

ตำรวจทางหลวง ประกาศชี้แจง กรณี กล้องจราจร 14 ตัว

ตำรวจทางหลวง ได้ออกมาประกาศชี้แจง ถึงกรณี กล้องจราจร 14 ตัว ณ แยกไฟแดงรังสิต – บางบัวทอง โดยเป็นเพียงแค่การทดสอบตรวจจับการจราจร

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ถึงกรณีการติดตั้งกล้องจราจร 14 ตัว บนแยกไฟแดงรังสิต – บางบัวทอง ก่อนถึงค่ายทหารซ่อมสร้าง หรือศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากทางเพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน

Advertisements

ซึ่งทาง พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รองผู้บังคับการ ตำรวจทางหลวง (รอง ผบก.ทล.) ได้ออกมาประกาศชี้แจงกรณีการติดตั้ง กล้องจราจร ในแนวทางดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564 ว่า

กล้องจราจรตามภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์นั้น มีใช้งานด้วยกันทั้งหมด 2 ส่วน ได้แก่

  1. กล้องและไฟตามลูกศรสีน้ำเงิน เป็นกล้องตามโครงการ ติดตั้งระบบตรวจจับผู้ขับขี่รถฝ่าฝืนสัญญาณจราจร(ไฟแดง) แบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ของ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (กล้อง 3 ตัวไฟ 2 ตัว)
  2. กล้องตามลูกศรสีเขียว แดง และม่วง เป็นกล้องที่ใช้ทดสอบเพื่อพัฒนาระบบประมวลผลของ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดยกล้องแต่ละตัวมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันตามรุ่น โดยปัจจุบันกล้องที่นำมาทดสอบ ไม่ได้นำภาพมาบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด (กล้อง 11 ตัว ) ซึ่งมีกำหนดการทดสอบ จำนวน 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. – 21 ส.ค.64 และจะถอดออกตามกำหนดทดสอบในวันที่ 21 สค.64

รอง ผบก.ทล. ได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า “กรณีดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการติดตั้งกล้อง ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอันนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

โดยกล้องที่ติดเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งนั้น เป็นกล้องเพื่อทดสอบ เปรียบเทียบประสิทธิภาพระบบประมวลผลการตรวจจับผู้กระทำความผิดคดีอาญาต่างๆ อาทิเช่น รถหาย รถสวมทะเบียน เป็นต้น

ซึ่งเป็นไป ตามแนวทางการใช้อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างความโปร่งใสและความยอมรับจากพี่น้องประชาชน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะได้นำเรียนชี้แจง ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป”

Advertisements

 

แหล่งที่มาของข่าว : เว็บไซต์สนุกดอตคอม

สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button