เจออีกแล้ว! ‘ไอซ์’ ซุก สังฆภัณฑ์ เตรียมส่งออสเตรเลีย
เป็นอีกครั้งที่หน่วยงานป้องกันยาเสพติดพบ ไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ใต้สินค้าต่างๆ คราวนี้มาพร้อมกับ สังฆภัณฑ์ โดยมีปลายทางที่ออสเตรเลีย
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน (Airport Interdiction TaskForce : AITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. บช.ปส. ศุลกากร และ ศรภ. ตรวจพบการซุกซ่อนอำพรางยาเสพติด เตรียมส่งปลายทางไปยังประเทศออสเตรเลีย จำนวน 2 ชิ้น
ชิ้นแรก ส่งจากหนองบอน กทม. ระบุชื่อ-ที่อยู่ผู้รับในประเทศออสเตรเลีย พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อประมาณ 490 กรัม ซุกซ่อนในหมอนสีส้ม ปะปนมากับเครื่องสังฆภัณฑ์ ชิ้นที่ 2 ระบุชื่อที่อยู่ผู้ส่งไม่ชัดเจน
ส่งจาก ปณ.คลองจั่น กทม. ระบุชื่อ-ที่อยู่ผู้รับในประเทศออสเตรเลีย พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อประมาณ 845 กรัม ซุกซ่อนซองแผ่นแปะแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยี่ห้อหนึ่ง รวมตรวจยึดไอซ์ทั้งหมด 1,335 กรัม เหตุเกิด ณ คลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จากนี้ จะนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “จากข้อสั่งการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และ ป.ป.ส. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยังคงความสำคัญทำงานเชิงรุก
ทั้งการปราบและป้องปรามขบวนการค้ายาเสพติด รวมทั้งให้เพิ่มการติดตามการค้ายาเสพติดออนไลน์ การลักลอบส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ เพิ่มความเข้มมาตรการตรวจคัดกรองการส่งออกสินค้าที่มีการดัดแปลงซุกซ่อนยาเสพติดส่งออกไป และถูกตรวจพบในประเทศปลายทาง
ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และตามข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าจับตาเข้มงวดกับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งไปยังประเทศปลายทางที่มีการขนยาเสพติด โดยเฉพาะ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเกาหลี
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่ารูปแบบการซุกซ่อนยาเสพติด หวังตบตาเจ้าหน้าที่โดยการ อำพรางมากับเครื่องสังฆภัณฑ์ และแผ่นแปะแก้ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งแม้จะไม่เคยตรวจพบมาก่อนแต่ก็ไม่สามารถอำพรางหลบเลี่ยงการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่ได้ จากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. จะรวบรวมพยานหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการขอหมายจับจากศาล และดำเนินคดีกับผู้ส่งของและผู้สั่งการต่อไป นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ส่งข้อมูล ชื่อ-ที่อยู่ผู้รับ ปลายทางทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง