กรมการขนส่งทางบก คุมเข้ม COVID-19 ใน พื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด งดให้บริการเดินรถโดยสารสาธารณะและขนส่งสินค้า (บริการขนส่ง) เข้า – ออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยออกแนวทางงดให้บริการเดินรถโดยสารสาธารณะและขนส่งสินค้า (บริการขนส่ง) เข้า – ออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จำนวน 13 จังหวัด
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ยังมีอัตราการเพิ่มของจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา
โดยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีคำสั่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จึงกำหนดมาตรการให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว ทั้งในส่วนของการให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะและการขนส่งสินค้า
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้
- การให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด “งดให้บริการเดินรถเข้า – ออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” และ “จำกัดการเดินรถระหว่างเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” เฉพาะเท่าที่จำเป็นสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังขั้นสูงสุด
- ส่วนมาตรการบังคับใช้เพื่อควบคุมการให้บริการรถโดยสารสาธารณะภาพรวมทั้งประเทศ ต้องปฏิบัติตามประกาศ ศบค. ด้านอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด เช่น
- ต้องหยุดการให้บริการตั้งแต่เวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
- กำหนดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด
- และต้องปฏิบัติตามทางมาตรการเว้นระยะห่าง จัดที่นั่งของรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง ให้จัดที่นั่ง 1 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง
- ห้ามลงจากรถระหว่างหรือในสถานที่ซึ่งมิใช่ที่หยุดหรือจอดตามที่กำหนดไว้
- เพื่อให้สามารถตรวจคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการสาธารณสุขได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ส่วนมาตรการบังคับใช้เพื่อควบคุมการให้บริการรถโดยสารสาธารณะภาพรวมทั้งประเทศ ต้องปฏิบัติตามประกาศ ศบค. ด้านอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด เช่น
- การขนส่งสินค้าภาพรวมทั่วประเทศ “งดการขนส่งในช่วงตั้งแต่เวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น” เว้นแต่ผู้ที่มีความจำเป็นในการขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้แก่
- ผู้ขนส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ สิ่งพิมพ์ หรือสินค้าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า สามารถขนส่งสินค้าได้
- รวมถึงการขนส่งเที่ยวเปล่าหรือตู้สินค้าเปล่าในกรณีเดินทางไปรับสินค้าและเดินทางกลับ
- โดยจัดเตรียมใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวพนักงานหรือหนังสือรับรองการทำงาน และเอกสารรับรองความจำเป็นเกี่ยวกับสินค้าและการเดินทางของผู้ขนส่งสินค้าเพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการขนส่งต้องควบคุม กำกับ ดูแล ผู้โดยสารให้ลงทะเบียนไทยชนะ หรือหมอชนะ หรือกรอกแบบฟอร์มที่ ขบ. กำหนด และในระหว่างการเดินทางต้องมีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศ รถตู้โดยสารปรับอากาศ
โดยให้พนักงานขับรถพิจารณาจอดพักรถ และเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในรถขณะเดินทางทุก 2 ชั่วโมง และทำความสะอาดภายในตัวรถและพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
เพื่อความปลอดภัยของผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท และงดการพูดคุยขณะให้บริการ รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทางไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะประเภทใดก็ตาม
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- กองสลาก ยืนยัน! ยังประกาศรางวัล หวย งวด 1 ส.ค. อยู่
- แฟลช เอ็กซ์เพรส หยุดให้บริการนำส่งพัสดุ รับล็อคดาวน์