รวม 9 ร้านอาหาร-บาร์ ในกรุงเทพ เลิศรส เลิศร้าน น่าตามไปลิ้มลอง
รวม 9 ร้านอาหาร-บาร์ ในกรุงเทพ ร้านอาหาร-บาร์นานาชาติ เลิศทั้งรสชาติ เลิศทั้งการแต่งร้าน ปักหมุดไว้เลยแล้วตามไปลิ้มลองกันได้เลย
ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ประเทศไหน ๆ และ กรุงเทพมหานคร ก็ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักชิมจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ครองใจทั้งคนในชาติและต่างชาติให้อยากตามไปลิ้มลอง สตรีตฟู้ดส์ที่ละลานตาให้เลือกชิมได้จนพุงกาง แต่กรุงเทพไม่ได้มีดีแค่สตรีทฟู้ดตามถนนเท่านั้น เพราะวันนี้เรารวมรายชื่อร้านสุดมีเอกลักษณ์ทั้งบรรยากาศและรสชาติอาหาร รวม 9 ร้านอาหาร-บาร์ ในกรุงเทพ ร้านอาหารและบาร์ที่จะมายกระดับรสชาติชีวิตให้คุณไปอีกขั้นเพียงปลายลิ้นสัมผัส
1. Eat Me (อีทมี) (ขณะนี้ปิดชั่วคราว เปิดอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2021)
ร้าน Eat Me มีอายุยาวนานกว่า 23 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 การันตีรสชาติด้วยรางวัลมากมายและได้รับการจัดอันดับว่าเป็น 1 ใน 50 อันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย เป็นเวลานานกว่าสิบปีที่ Eat Me ได้เชฟมากความสามารถจากอเมริกา Tim Bulter มารังสรรค์ความอร่อยลงจาน สามารถดึงดูดนักชิมจากในประเทศและต่างประเทศให้กลับไปเยี่ยมเยือนซ้ำอีกครั้ง ด้วยสไตล์การทำอาหารที่ทั้ง “โดดเด่น” และ “กล้าหาญ” อย่างเมนูเรียกน้ำย่อย หอยเชลล์อลาสก้ากับอะโวคาโด ยูซุ และแพนเช็ตต้า นอกจากนี้ยังมีเมนูคลาสสิกขึ้นชื่ออีกมากมาย อย่าง Black Truffle, Parmesan Risotto และเมนูพาสต้า Pappardelle with Rabbit Ragu รวมถึงเมนูจากวัตถุดิบตามฤดูกาล
เรื่องเครื่องดื่มก็ไม่เป็นรองอาหาร ภายใต้การรับผิดชอบของมิกโซโลจิสต์อย่างคุณบุญเตเนศ ดิเรกฤตติกุล ที่กล้าหยิบจับส่วนผสมแบบไทย ๆ ลงไปในเครื่องดื่มเพื่อสร้างสรรค์ค็อกเทลรสชาติหนึ่งเดียวในโลก ทั้งน้ำพริกเผา ข้าวคั่ว หรือแม้แต่หอมแดง
ใครที่อยากเปลี่ยนรสชาติให้ชีวิตภายในหนึ่งมื้อหรืออยากจะลิ้มลองว่ารสชาติความเป็นไทยที่คุ้นเคยจะไปสุดได้แค่ไหน ต้องขอเชิญมาที่ร้าน Eat Me กันได้เลย พร้อมการบริการระดับ 5 ดาวที่คุณต้องประทับใจคนอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน
ที่อยู่: 1/6 ซอยพิพัฒน์ 2 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
2. JUA (จั่ว)
‘จั่ว’ ร้านอาหารอิซากายะทันสมัยขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอาคาร 3 ชั้นบนถนนเจริญกรุง แต่เดิมอาคารนี้เคยเป็น “บ้านคานพนัน” หรือบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมายมานานกว่า 25 ปี โดยชื่อร้าน จั่ว มีความหมายถึงหน้าจั่วของหลังคาที่คอยคุ้มแดดคุ้มฝนให้กับคนที่อยู่ใต้มัน
อาหารขึ้นชื่อของร้านคือ ยากิโทริ อาหารปิ้งย่างที่ใช้เทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น เสียบเนื้อและผักด้วยไม้แล้วย่างบนเตาถ่าน นอกจากนี้ยังมีเมนู ทาปาส ทูน่าครีบเหลืองกับซอสศรีราชาหรือซี่โครงหมูทงคัตสึ จิบเบียร์แกล้มอาหารไปกับกลุ่มเพื่อนหลังเลิกงานคงน่าอภิรมย์ไม่น้อย อาหารรสชาติเข้มข้นเพราะเนื้อบางอย่างหมักกันเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว แต่ร้านนี้ก็ไม่ได้มีแต่อาหารนานาชาติแต่ยังมีการใช้วัตถุดิบในไทยมาประกอบด้วย
ที่พลาดไม่ได้เลยคือเมนูค็อกเทลที่ปรุงอย่างปราณีต ‘Miss Ozawa’ เครื่องดื่มสีชมพูสดใสที่ทำจากจินและเวอร์มุธแห้ง ‘Namba Sour’ ทำจากวิสกี้ขาวญี่ปุ่น ยูซุ น้ำมะนาว และเหล้าเชอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีเบียร์ญี่ปุ่นและเอลให้เลือกอีกด้วย
ที่อยู่: 672/49 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
3. Penthouse Bar & Grill (เพนต์เฮาส์บาร์)
Penthouse Bar & Grill เป็นเพนต์เฮาส์สามชั้น แรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากเพนต์เฮาส์ในชิคาโกและนิวยอร์ก ในปี 2020 ได้รับการโหวตให้เป็น “บาร์บนชั้นดาดฟ้าที่ดีที่สุด” และได้รางวัล HELLO Taste Awards ร้านจะมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน
ที่ชั้น 34 The Grill คุณจะได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศฝีมือเชฟ Dominic Hong Dongxie ที่เลือกเฉพาะเนื้อและอาหารทะเลที่ดีที่สุดเท่านั้นมาปรุงอาหาร เมนูแนะนำคือ Fine de Claire หอยนางรมจากฝรั่งเศส เนื้อสันในและริบอายของ Ranger’s Valley ที่เลี้ยงด้วยหญ้าจากออสเตรเลีย เนื้อวากิวยักษ์
หลังจากอิ่มหนำแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 35 เพื่อดื่มเครื่องดื่มกัน ค็อกเทลบาร์ที่พร้อมให้บริการกับเมนูน่าลองอย่าง 250 CC เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผสมจิน เวอร์มุธ ช็อคโกแลตขม และน้ำเชื่อมลิ้นจี่ Granny Fizz ค็อกเทลรสหวานอมเปรี้ยว
และถ้าคุณต้องการสถานที่ที่เงียบสงบ ต้องไม่ลืมแวะไปที่ The Mezzanine หรือฟังดนตรีแจ๊สเล่นแบบสดๆ ที่ Whisky Room (เฉพาะวันพุธ-วันเสาร์)
ที่อยู่: ชั้น 34 – 36 โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ 88 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
4. Happy Endings Eats and Bar
บาร์สไตล์เวียดนาม ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีฟ้า ผนังคอนกรีต และดอกไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมเมนูเด็ดที่รอให้คุณได้ลิ้มรสอย่าง Banh Mi ขนมปังสไตล์เวียดนาม, Banh Cuon เหมือนข้าวเกรียบปากหม้อบ้านเรา และยำหมูยอหรือเนื้อห่อใบพลู มอบความบันเทิงระหว่างมื้ออาหารด้วยการแสดงสดของดีเจในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อชาร์จพลังให้กับชีวิตที่เหนื่อยล้าของผู้มาเยือนและยังอิ่มท้องอีกด้วย
เมนูเครื่องดื่มของร้านนี้ออกแบบโดย แบงค์ วัชรพงษ์ สุริยาพันธ์ (หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Backstage Cocktail Bar) เมนูค็อกเทลน่าลองอย่าง Curry Expression ทำมาจากส่วนผสมของเตกีลา น้ำเชื่อมผักชีฝรั่งและน้ำสับปะรดผสมกับผงกะหรี่ พริกไทยดำและมะนาว ฟังแล้วอาจจะแปลกใหม่ไปบ้าง แต่ถ้าคุณยังไม่อยากแหวกแนวก็มีตัวเลือกอย่าง ‘จัสมิน คอลลินส์’ เหล้ายินจากดอกไม้ที่เข้ากันได้ดีสุดกับอาหารเวียดนาม รวมถึงเบียร์และไวน์จำหน่ายด้วย
ที่อยู่: 1/5 ซอยศาลาแดง 1 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
5. Bunker Restaurant (บังเกอร์)
บังเกอร์ ร้านอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ภายในตึก 3 ชั้นย่านสาทร ร้านอาหารที่จะพาคุณหลบจากความวุ่นวายในย่านเมือง อาหารที่เสิร์ฟมีพื้นหลังและเทคนิคมาจากหลากหลายวัฒนธรรมในอเมริกา และยังผสมผสานความแปลกใหม่จากทั่วโลกเข้าไปด้วย เรียกว่า “นิวอเมริกัน” จานเด่นที่ต้องพูดถึงคือ Wagyu Beef Tartar และ Veal Agnolotti with Black Truffle ของหวานก็อร่อยไม่แพ้จานหลัก สำหรับคนรักช็อกโกแลตพลาดไม่ได้กับเมนู Malagos Chocolate Torte ที่มีงาดำ มาร์ชเมลโล่ และเชอร์เบทแบล็คเคอแรนต์
เครื่องดื่มมีทั้งค็อกเทล คราฟต์เบียร์และไวน์ โดยเมนูค็อกเทลแนะนำคือ Huckleberry และ Yuzu Whiskey Sour เหมาะมากกับการรวมตัวกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ร้านแห่งนี้
ที่อยู่: 118/2 สาทร ซอย 12 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
6. FooJohn (ฟูจอห์น)
FooJohn ร้านอาหารกึ่งบาร์แจ๊สย้อนยุคตั้งอยู่บริเวณทางเข้าถนนเจริญกรุง ชั้น 1 จะให้บริการเครป ไวน์ และชาร์กูเตอรี ส่วนชั้นที่ 2 คุณจะพบกับแจ๊สคลับที่มีดนตรีแจ๊สบรรเลงสดทุกวันพฤหัสบดี ต่อมาส่วนของ Spare Parts Smokehouse ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 3 และชั้นดาดฟ้า จะคอยให้บริการบาร์บีคิวรมควันแบบเท็กซัส เบียร์สด และเครื่องดื่มบูร์บง
เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ ไก่ย่างเนื้อชุ่มฉ่ำและนุ่ม และเมนูอาหารสไตล์บิสโทรอื่น ๆ อย่าง Grilled Smoked Ribs และ Basil Burgers นอกจากอาหารแล้วยังมีเครื่องดื่มค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “The Savoy Cocktail Book” น่าลองสุด ๆ อีกด้วย
ที่อยู่: 831 ซ.เจริญกรุง 31 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
7. La Dotta Restaurant (ลา ดอตต้า)
เป็นร้านบาร์พาสต้ารสชาติดีในย่านทองหล่อ ชั้น 1 เป็นครัวแบบเปิดโล่ง คุณจึงได้เห็นทีมเชฟคอยปรุงอาหารสดใหม่ให้ดูกันแบบจะ ๆ ส่วนโซนนั่งจะอยู่บนชั้น 2 ด้วยฝีมือของหัวหน้าเชฟชาวชิลี Giampiero Quartararo ที่พร้อมเสิร์ฟรสชาติต้นตำรับแบบอิตาลีแบบฟิวชั่น ด้วยเส้นพาสต้าสดทำใหม่ทุกวัน มีหลากหลายแบบเส้นให้เลือก จับคู่มาอย่างดีกับรสชาติซอสที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้รสชาติ Tortelloni ของพวกเขาเต็มไปด้วยความเข้มข้นและอร่อยจากชีส 4 ชนิด นอกจากเส้นพาสต้าทำสด ๆ แล้ว ทางร้านยังใช้พาสต้าแห้งคุณภาพสูงนำเข้าจากอิตาลีอย่าง Paccheri อีกด้วย
ในส่วนของเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร ทางร้านก็คัดเลือกไวน์ธรรมชาติรสชาติดี และยังมีเครื่องดื่มค็อกเทลอิตาเลียนซึ่งทำจากผลไม้สดมาพร้อมเสิร์ฟให้คุณอีกด้วย มั่นใจได้ในคุณภาพเพราะเชฟได้ปรากฏตัวในคู่มือมิชลินถึง 3 ปีติดต่อกัน (2019-2021) ถ้าใครไม่อยากมาแค่กินแต่อยากลองทำ ทางร้านก็มีคลาสสอนทำอาหารทุกวันเสาร์ โดยคุณจะได้เรียนวิธีทำเส้นพาสต้ากับเชฟชาวอิตาลีขนานแท้โดยไม่ต้องบินออกไปนอกประเทศเลย
ที่อยู่: 161/6 ถนนทองหล่อ 9 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
8. Il Fumo อิล ฟูโม
Il Fumo เปิดร้านในปี 2558 และได้กลายมาเป็นร้านอาหารชั้นเลิศแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ จนทุกวันนี้ ได้รับรางวัลการันตีเรื่องอาหารมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือรางวัล L’Assiette MICHELIN ใน MICHELIN Guide ของประเทศไทยถึง 4 ปีซ้อน (2018-2021) และรางวัลอื่น ๆ อย่าง BK Magazine’s TOP TABLES (2016-2019) และ Thailand Tatler’s Best Restaurants (2016-2018)
โดย อิล ฟูโม เป็นร้านแรก ๆ ที่นำเนื้อ Chianina และ Rubia Gallega นำเข้าจากอิตาลีและสเปนมาปรุงอาหารจานเด็ดในประเทศไทย เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ พาสต้า Tagliolini ทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิล, เนื้อ Barossa จากโปรตุเกส และหมูหัน ในส่วนของเครื่องดื่มทางร้านจะเน้นเป็นไวน์จากอิตาลี โปรตุเกส และสเปน แต่ก็ยังมีค็อกเทลที่ขึ้นชื่อและน่าลิ้มรสที่คุณควรลอง เพราะร้านอิล ฟูโม มีทีม Vesper Cocktail Bar ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 11 ในอันดับ 50 บาร์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2020 และอันดับ 62 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดของโลกประจำปี 2020 มาคอยมิกซ์เครื่องดื่มให้คุณอีกด้วย
ที่อยู่: 1098 ถ.พระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
9. Sorrento (ซอร์เรนโต)
ซอร์เรนโตดำเนินการโดย ต้น พงษ์ภักดิ์ สุทธิพงษ์ แชมป์รายการสุดยอดบาร์เทนเดอร์ DIAGEO Reserve World Class ปี 2015 และปี 2018 ด้วยบรรยากาศของเฟอร์นิเจอร์หนังสีเข้มและไม้ ตัดกับผนังสีสว่าง ทำให้คุณรู้สึกได้ถึงบรรยากาศผ่อนคลายในการทานอาหาร ชื่อร้าน ซอร์เรนโต มาจากเมนูอาหารอิตาเลียนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และยังเหมาะมากสำหรับการทานคู่กับค็อกเทลอีกด้วย
เมนูขึ้นชื่อทั้งพาสต้า Cacio E Pepe และสลัดบูราต้า ค็อกเทลผสมสาเก ยูซุ โทนิก และน้ำกุหลาบที่ต่างก็รอให้คุณได้ไปชิมรสชาติของมันสักครั้ง แล้วอย่างนี้จะพลาดไปได้อย่างไร
ที่อยู่: 73 ถนนสาทรเหนือ ซอยสาทร 10 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ร้านอาหาร-บาร์ในกรุงเทพที่เรายกมานั้น ยังไม่ถึงครึ่งของความอร่อยน่าตามไปลิ้มลองที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกต่าง ๆ ร้านริมถนน ต่อให้คุณใช้เวลากินทั้งชีวิตก็อาจตามเก็บไม่หมดก็ได้ ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าอยู่ทำไม ลองก้าวออกไปฝากท้องกับความอร่อยที่รอต้อนรับคุณอยู่กันเลย