‘พิธา’ เสนอเร่งพิจารณาเพิ่มเตียงผู้ป่วย ICU คาดความต้องการทวีตัว
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โพสต์ข้อความเสนอให้รัฐบาลเร่งเพิ่มเตียงผู้ป่วย ICU คาดในอีก 3 เดือนความต้องการเตียงจะทวีตัวขึ้น
นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขณะนี้ยอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำให้ประเทศไทยเผชิญปัญหาขาดแคลนเตียง ICU
ซึ่งจากการแถลงของโฆษกรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ก.ค. พบว่า เตียงสีแดงสำหรับผู้ป่วยโควิดถูกใช้ไปแล้วถึง 1,203 เตียง จาก 1,317 เตียง โดยอัตราผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเร็วกว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้ออกจากโรงพยาบาล
โดยนายพิธาระบุว่า “จากสถานการณ์ดังต่อไปนี้ส่งผลให้เราต้องเร่งพิจารณาเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) ให้มากขึ้นโดยเร็วที่สุด และต้องบริหารโดยมองไปข้างหน้า เพื่อเร่งหาแนวทางรองรับจำนวนผู้ป่วยที่คาดว่าจะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทางสถาบัน Institute of Health Metrics and Evaluation (IHME) ของ University of Washington ได้คาดการณ์สถานการณ์ในไทยไว้ว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม ประเทศไทยจะต้องใช้เตียง ICU รองรับผู้ป่วยโควิดถึง 3,120 เตียง
ซึ่งเป็นมากกว่าเท่าตัวของความต้องการในปัจจุบันที่เตียงก็เต็มแล้ว ถึงแม้ว่าการคาดการณ์นี้อาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่อย่างน้อยก็เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งเพิ่มศักยภาพห้องสีเขียวให้เป็นห้องสำหรับผู้ป่วยสีเหลือง และห้องสีเหลืองเป็นห้องผู้ป่วยสีแดง
แต่น่าเศร้าที่รัฐบาลกลับเพิกเฉยต่อความสำคัญของการเพิ่มศักยภาพตรงนี้ เมื่อผมย้อนดูผลการเบิกจ่ายงบประมาณในการปรับปรุงระบบสาธารณสุขตามแผน พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ตามที่ปรากฏในเอกสารของกรมบัญชีกลางเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นข้อมูลการเบิกจ่ายจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม ผลปรากฏว่ารัฐบาลยังแทบไม่ได้ซื้ออะไรเลย
นอกจากการจัดซื้อเพื่อเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุขจะล่าช้าเกินไปมากแล้ว ผลการเบิกจ่ายยังแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้เตรียมความพร้อมกับการกระจายวัคซีนเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากปรากฎว่ามีรายการที่เกี่ยวกับตู้แช่เพียง 16 รายการเท่านั้น และมีรายการที่เกี่ยวกับตู้แช่ -80 องศา มูลค่า 1.6 ล้านบาท เพียง 1 รายการเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยจะไม่มีความพร้อมในการจัดสรรและกระจายวัคซีน mRNA เลย หากรัฐบาลได้วัคซีน Pfizer มา 1.5 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคมนี้ และอีก 20 ล้านโดสมาในไตรมาส 4
ท้ายที่สุดนี้ รัฐบาลต้องยอมรับแล้วว่า จำนวนเตียงผู้ป่วยขั้นวิกฤติ (ICU) ไม่พอต่อตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน และต้องเร่งรื้อแผนอนุมัติจัดซื้อใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งเร่งปรับปรุงห้องผู้ป่วยทั้งหมดให้เพียงพอและทันต่อสถานการณ์ การจัดซื้อมีปัญหาที่ไหน ติดระเบียบที่ใด อะไรที่พอจะลดขั้นตอนได้ก็ควรลด รัฐบาลต้องรีบแก้
เพราะทุกวินาทีที่รัฐบาลปล่อยผ่านไป ลมหายใจของประชาชนคนไทยก็ถูกพรากไปด้วยเช่นกัน”