การเงิน

บสย. เผย ยอดการอนุมัติ สินเชื่อ เป็นมูลค่า 1 แสนล้านกว่าบาท

บสย. ทำการเปิดเผยถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ สินเชื่อ โดยมูลค่าล่าสุดนั้นอยู่ที่ 103,000 ล้านบาท และมียอดผู้ประกอบการที่ได้รับไปแล้ว 107,000 ราย

บสย. ยังแรงไม่ตก ลุยค้ำฯสุดตัว ทำการเร่งผลักดัน สินเชื่อ ต่อลมหายใจธุรกิจ โดยทำการอนุมัติค้ำฯแล้วเป็นมูลค่า 103,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการไปได้ถึง 107,000 ราย

Advertisements

นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เผยผลดำเนินงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจ ตั้งแต่ 1 ม.ค.-25 มิ.ย. 2564 ว่า ได้อนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวมทุกโครงการ จำนวน 103,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบธุรกิจ จำนวน 107,000 ราย ได้แก่

  • โครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู จำนวน 35,000 ล้านบาท
  • โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 9 จำนวนกว่า 50,000 ล้านบาท
  • โครงการค้ำประกันสินเชื่อไมโคร 4 และโครงการอื่นๆ จำนวน 6,900 ล้านบาท

สำหรับผลดำเนินงานโครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู ขณะนี้มีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ 23 ธนาคาร อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 35,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบธุรกิจ จำนวน 12,300 ราย อนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ยต่อวัน ประมาณ 1,600 ล้านบาท

โดย 5 อันดับกลุ่มธุรกิจที่ บสย.ค้ำสูงสุด ได้แก่

  1. ธุรกิจบริการ
  2. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
  3. การผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ
  4. ธุรกิจยานยนต์
  5. ธุรกิจพักแรม

นอกจากนี้ บสย. ยังมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือลูกค้าค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อบรรเทาภาระการผ่อนชำระ สำหรับลูกหนี้ทั่วไป ได้แก่ มาตรการผ่อนชำระน้อยตามความสามารถจริง มาตรการดอกเบี้ยต่ำเพื่อแบ่งเบาภาระหนี้ ชำระค่างวดเงินต้น และ กลุ่มลูกหนี้ที่กำลังประสบปัญหา โดยลดจำนวนเงินค่างวด พักชำระหนี้ ระยะเวลา 6 เดือน

ทั้งนี้ยังได้เปิดให้บริการศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน (บสย. F.A. Center) เมื่อเดือนกันยายน 2563 ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคาร SME D Bank ถนนพหลโยธิน เพื่อเป็นศูนย์กลางที่ปรึกษาทางการเงิน แก้ไขหนี้ แนะนำการเข้าถึงสินเชื่อ การให้ความรู้ด้านการเงินกับเอสเอ็มอี

Advertisements

โดยมีผู้ประกอบธุรกิจขอรับการปรึกษาแล้วกว่า 5,300 ราย ประกอบด้วย

  • ขอรับคำปรึกษาจำนวน 2,613 ราย
  • ร่วมโครงการฝึกอบรม จำนวน 2,687 ราย
  • ในจำนวนนี้เป็นการขอรับการปรึกษาแบบเชิงลึก ประมาณ 1,000 ราย

โดยขอรับคำปรึกษาสูงสุด 3 เรื่อง คือ

  1. ขอสินเชื่อ 695 ราย สัดส่วน 69.5%
  2. ปรับโครงสร้างหนี้ 178 ราย สัดส่วน 17.8%
  3. เพื่อพัฒนาธุรกิจ 127 ราย สัดส่วน 12.7%

 

แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button