ข่าว

หมอศิริราช เผย โควิดสายพันธุ์เดลต้าในรพ.น่าจะเกินครึ่งแล้ว บ่งชี้ระลอก 4

หมอนิธิพัฒน์ เผย พบโควิดสายพันธุ์เดลต้าในโรงพยาบาลศิริราช คาดวันนี้น่าจะเกินครึ่งไปแล้ว หลายรายไม่พบต้นเหตุว่าติดเชื้อจากใคร เป็นสัญญาณบ่งชี้ระบาดระลอกสี่

นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์โรงพยาบาลศิริราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า Officially COVID-ICU attending physician from June 28 to เป็นวันแรกของเดือนนี้ที่กลับมาเป็นอาจารย์ประจำการหอผู้ป่วยไอซียูโควิดแห่งแรกของศิริราชรวม 7 เตียง

Advertisements

ขณะนี้กิจการเราดีมากจึงขยายไปอีกสองที่ ที่ละ 6 เตียง รวมทั้งหมดจึงเป็น 19 เตียง ซึ่งเต็มมาเกือบตลอดเดือนนี้ และคาดว่าจะเป็นแบบนี้ในเดือนหน้าอีกทั้งเดือน ถ้าเป็นเชิงพาณิชย์สงสัยอัตราการเติบโตของมูลค่าเพิ่มนับว่าก้าวกระโดด

ข้อมูลจากการสุ่มตรวจเมื่อราวสิบวันก่อน ในศิริราชพบสายพันธุ์เดลต้าประมาณ 30% ถ้าถึงวันนี้น่าจะเกินครึ่งไปแล้ว สัปดาห์นี้จะลองส่งตรวจในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงดูว่าจะพบคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร สายพันธุ์นี้นอกจากจะแพร่ได้ง่ายไปสู่ทั้งเด็ก คนท้อง และคนชรา ยังอาจจะเกิดปอดอักเสบได้เร็วและได้แรงกว่าสายพันธุ์เดิมๆ ที่เราคุ้นเคย นี่เป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เรียกการระบาดช่วงนี้เป็นระลอกสี่ และเป็นตัวชี้ขาดหนึ่งในความยากง่ายของการควบคุมโรคภายหลังเริ่มใช้มาตรการต่างๆ ที่เผยโฉมให้ชัดเจนวันนี้ คงต้องลุ้นกันตัวโก่งเหมือนบอลยูโรที่มาได้ครึ่งทางของรอบ 16 ทีมแล้ว

ในบรรดาผู้ป่วยทั้ง 7 รายที่ดูแลอยู่ตอนนี้ สองในเจ็ดน่าจะมาจากสายพันธุ์เจ้าปัญหา วันนี้ย้ายผู้ป่วยเก่าได้สองรายและนำรายใหม่เข้ามาแทน คาดว่าเจ้าตัวร้ายคงกลายเป็นขาใหญ่ของที่นี่แทนคือ 4 จาก 7 ราย

ที่น่าสนใจคือผู้ป่วย 3 รายเป็นอาจารย์อาวุโสของผมเอง ทุกท่านแม้อยู่ในวัยเกือบหรือเกิน 80 แล้ว แต่ยังแข็งแรงดีและไม่มีโรคหรือภาวะเสี่ยงชัดเจน ที่สำคัญคือทั้งหมดหาต้นตอคนนำเชื้อมาให้ได้ไม่ชัดเจน แสดงถึงมีการลุกลามของเชื้อเข้าไปในชุมชนวงกว้าง ซึ่งเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ของการระบาดระลอกสี่ ภาวนาให้เหล่าครูทุกท่านได้รับผลดีของการดูแลรักษาโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเรื้อรัง นี่ช่วยตอกย้ำอีกครั้งว่า วัคซีนที่กำลังจะได้มาในเดือนหน้า จะต้องเร่งฉีดให้กับผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังเป็นอันดับต้นๆ

กองทัพเดินด้วยท้องฉันใด ทีมของเราหลังจากตรวจเยี่ยมผู้ป่วยกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้งานไม่ยุ่งมากจึงสั่งพิซซ่าและโค้กมาปลุกขวัญลูกทีม เรามีแพทย์ 7 คน กับพยาบาล 12 คนสำหรับดูแลผู้ป่วย 7 ราย แต่ในโรงพยาบาลที่พร้อมน้อยกว่าเรานั้น ปริมาณงานเท่ากันนี้เขาอาจใช้คนแค่ครึ่งเดียวของเราหรืออาจไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ คิดดูแล้วกันว่ามันจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน แล้วอย่างนี้จะใจดำไม่ควบคุมโรคจริงจังให้กับพวกเขาพอจะได้มีโอกาสผ่อนคลายบ้างเลยหรือ

Advertisements

ในยามที่กรุงเทพกำลังจะถูกข้าศึกโควิดสายพันธุ์ภารตะตีแตก ได้มีการระดมทหารใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการฝึกฝนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาเสริมทัพ พวกเขาเหล่านี้ถูกส่งตัวจากหัวเมืองมาร่ำเรียนในเมืองหลวง เพื่อหวังกลับไปเป็นกำลังสำคัญดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนในต่างจังหวัด การกะเกณฑ์เขามาช่วยงานก่อนส่งตัวกลับที่ตั้ง ควรเป็นไปโดยความยินยอมของทั้งตัวเขา หัวหน้างานเขา และที่สำคัญประชาชนในพื้นที่เขาหากสถานการณ์โควิดที่นั่นยังเบาบางอยู่

วอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายอย่ารานน้ำใจผู้น้อยมากไปนักเลย สายงานแพทย์เราใช้ระบบอาวุโสและคุณธรรมในการร้อยรัดพวกเราเข้าด้วยกันไว้ มากกว่าการใช้อำนาจสั่งการตามระดับบังคับบัญชาเหมือนวิชาชีพอื่น อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นไฟไหม้ฟางก่อความบาดหมางใจกันโดยใช่เหตุ ที่จริงเราน่าจะช่วยกันประสานเสียงว่า การแก้ไขหลักของสถานการณ์ในกรุงเทพต้องเน้นการควบคุมโรคให้อยู่หมัด มากกว่าการขยายเตียงโควิดในโรงพยาบาลต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

คลิกดูโพสต์ต้นฉบับ

สนใจทำประวัติโควิด-19 กับ Tadoo คลิกที่นี่

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button