เปลี่ยนใหม่ เดินทางเข้าภูเก็ตล่าสุด ไม่ฉีดวัคซีน ไม่มีผลตรวจโควิด ต้องกักตัว 14 วัน
เปลี่ยนใหม่ เดินทางเข้าภูเก็ตล่าสุด ไม่ฉีดวัคซีน ไม่มีผลตรวจโควิด ต้องกักตัว 14 วัน
คืบหน้ากรณีจังหวัดภูเก็ต ยกระดับมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตภายหลังวันที่ที่ต้อง ฉีดวัคซีนครบ 2 เข้ม หรือไม่ก็ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ล่าสุด วันที่ 17 พ.ค. 64 จังหวัดภูเก็ตมีคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติม สาระสำคัญ คือ หากไม่ได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือไม่มีผลตรวจโควิด RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง สามารถเดินทางเข้าภูเก็ตได้ แต่ต้องกักตัว 14 วัน รายละเอียดดังนี้
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต จึงแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 1 และข้อ 1 (1) ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ดังนี้
ข้อ 1 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต เว้นแต่
(1) เป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง นั้น
ในกรณี ที่ไม่สามารถดำเนินการตามข้อ 1 (1) ได้ ให้เข้ารับการกักกันตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อออกคำสั่งให้กักกันตัวในที่พักอาศัย (Home Quarantine) และให้อยู่ในการติดตามดูแลของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ตลอดระยะเวลาที่กักกัน
นอกจากที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้คงเดิมตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สั่ง ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2564
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต