สุดท้ายกับ มาตรการช่วยเหลือ ใหม่ ในช่วงวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยในส่วนนี้เป็นตัวมาตรการต่อเนื่อง หากสถานการณ์คลี่คลายลง
จากการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ (5 พ.ค. 2564) ได้มีการลงมติอนุมัติในตัว มาตรการช่วยเหลือ เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ระลอกที่ 3 โดยก็ออกมีการครอบคลุมในด้านต่าง ๆ ด้วยกัน
Advertisements
มาในที่นี่จะเป็นในส่วนของ มาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไป หรือมาตรการที่รองรับเมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระลอกเดือนเมษายน 2564 คลี่คลายลง โดยมีกรอบวงเงิน เบื้องต้น 140,000 ล้านบาท โดยจะขอใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
ซึ่งก็พอจะแบ่งออกเป็นมาตรการต่าง ๆ ดังนี้
- มาตรการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวนกลุ่มเป้าหมายประมาณ 13.65 ล้านคน โดยการให้ความช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มเติม เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน (เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2564)
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จำนวนกลุ่มเป้าหมายประมาณ 2.5 ล้านคน โดยการให้ความช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพิ่มเติม เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6เดือน (เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2564)
- มาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้ความสำคัญกับการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางและรายได้สูง ได้แก่
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
- เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก เพิ่มอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ
- โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนของค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ในลักษณะร่วมจ่าย (CO – pay) ร้อยละ 50 ของราคาสินค้า ระหว่างรัฐบาลกับประชาชนผู้ได้สิทธิตามโครงการไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
- ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 31 ล้านคน
- โครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้”
- โดยรัฐสนับสนุน e – Voucher ให้กับประชาชนที่ใช้จ่ายซื้อสินค้า ค่าอาหาร และเครื่องดื่มและค่าบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน
- โดยเมื่อประชาชนใช้จ่ายดังกล่าวจะได้รับสนับสนุน e – Voucher จากภาครัฐในช่วงเดือนกรกฎาคมถึง ธันวาคม 2564 และสามารถนำ e – Voucher ไปใช้จ่ายได้ในเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2564
- ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 4 ล้านคน
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
Advertisements