ประยุทธ์เผย ไทยผลิต วัคซีนแอสตราเซเนก้า สิ้นปีครบ 61 ล้านโดส
นายกรัฐมนตรีย้ำไม่ปิดกั้นภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือก พร้อมเปิดให้ประชาชนแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” เริ่มวันที่ 1 พ.ค. 64
เวลา 12.30 น. ณ โถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผย การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เป็นการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ป้องกันการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากขีดความสามารถในการรักษาของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนอาจไม่เพียงพอในบางครั้ง เพราะต้องให้การดูแลรักษาแก่ผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ด้วย พร้อมขอบคุณภาคเอกชนในการสนับสนุนอาหารและเครื่องดื่มแก่โรงพยาบาลสนามในหลายพื้นที่
นายกรัฐมนตรียังชี้แจงการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์มีวัคซีนนำเข้าจาก Sinovac จำนวน 200,000 โดส และ AstraZeneca จำนวน 117,000 โดส ในเดือนมีนาคมนำเข้าวัคซีนจาก Sinovac จำนวน 800,000 โดส และเดือนเมษายนนำเข้าวัคซีนจาก Sinovac จำนวน 1,000,000 โดส โดยแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว ซึ่งในวันที่ 24 เมษายน นี้จะมีวัคซีนจาก Sinovac จำนวน 500,000 โดส และในเดือนพฤษภาคมจำนวน 1,000,000 โดสที่อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับรัฐบาลจีน
สำหรับวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทยจะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่เดือนมิถุนายน จำนวน 4,000,000 – 6,000,000 โดส และจะเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปถึงสิ้นปีจนครบ 61,000,000 โดส นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนโดยมีนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาพร เป็นประธาน เพื่อหารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนและผู้เชี่ยวชาญ ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกแก่ประชาชนได้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ในระดับดีมาก และมีการจัดหาวัคซีนเน้นตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งยังเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะนี้มีบริษัทผลิตวัคซีนหลายยี่ห้อที่ได้เสนอขายวัคซีนแก่ประเทศไทย โดยสถาบันวัคซีนอยู่ระหว่างการพิจารณาหารือราคาและเงื่อนไขกับ บริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) เพื่อเป็นการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมปริมาณ 5,000,000 – 10,000,000 โดส รวมทั้งต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนในกลุ่มเสี่ยงตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขโดยเร็วที่สุดในทุกจังหวัด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ พร้อมจัดเตรียมวัคซีนสำรองไว้เพิ่มเติม ทั้งนี้ จะมีการเปิดให้สำหรับประชาชนที่มีความประสงค์จะเข้ารับการฉีดวัคซีนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นี้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ขณะนี้มีเพียงพอต่อการรักษา อย่างไรก็ตามจะมีการจัดหาเพิ่มเติมในเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2,000,000 เม็ด เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 1,000,000 เม็ด และเดือนมิถุนายน – กรกฎภาคม 500,000 แสนเม็ด รวมเป็น 3,500,000 เม็ด และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แด่นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และบุคลากรทางการแพทย์ ยืนยันรัฐบาลไม่หยุดนิ่งในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ขอให้ประชาชนไม่ประมาท สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมืออยู่เสมอ ย้ำ “เราจะต้องชนะไปด้วยกัน”
ที่มา : รัฐบาลไทย