ข่าวภูมิภาค

เชียงใหม่ระดมกำลังดับไฟป่า-ทอ.ส่ง UAV บินสำรวจ

เชียงใหม่ผนึกกำลังทุกหน่วยงาน สร้างเกราะป้องกันไฟป่าดอยสะเมิง ไม่ให้เกิดซ้ำ หลังเมื่อคืนเผาผลาญหลายจุด ทอ. ส่ง UAV บินสำรวจวางแผนดูแล

ไฟป่าเชียงใหม่ – เช้าวันนี้(30 มี.ค.) ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ของกองทัพอากาศได้บินลาดตระเวนตรวจสอบจุดความร้อนที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมส่งอากาศยานขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟในพื้นที่สูงอีกครั้ง

Advertisements

หลังเกิดไฟป่าบนภูเขาสูง บริเวณบ้านศาลา ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่าน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้ถ่ายไว้และถูกแชร์ไปในโซเชียลมีเดียอย่างมาก นายจักรา ดิษยนันทน์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าขุนขาน-สะเมิง แจ้งว่า เมื่อเวลา 24 นาฬิกาที่ผ่านมา ชุดเสือไฟ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ส่งกำลังเสริมสนับสนุน อีก 22 นาย เข้าช่วยดับไฟป่าพื้นที่ดังกล่าว

โดยพบว่าเกิดไฟขึ้นพร้อมกันหลายจุด ทั้งที่บ้านศาลา และบ้านแม่สาบ ต.สะเมิงใต้ และบ้านป้ออก ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง โดย 2 จุดหลังสามารถควบคุมไฟได้ แต่ที่บ้านแม่สาบ เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการบินโปรยน้ำดับไฟไปแล้ว 40 เที่ยว จนกระทั่งพลบค่ำจึงต้องหยุดปฏิบัติการ

ขณะที่ หน่วยดับไฟภาคพื้นดิน ทั้ง จนท.สถานีควบคุมไฟป่าขุนขาน-สะเมิง, อุทยานแห่งชาติขุนชาน, เจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ และชาวบ้านในพื้นที่ระดมกำลังเข้าดับไฟทั้งวันต่อเนื่องไปจนถึงกลางคืน แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นหน้าผาหิน ที่มีความสูงชัน อีกทั้งยังเป็นป่าไผ่ ทำให้ไฟไม้ลุกลามรุนแรง ยากต่อการควบคุมไฟ โดยวันนี้ (30 มี.ค.) จะเข้าสำรวจและวางแผนเพื่อควบคุมป้องกันการเกิดไฟป่าอีกครั้งด้วย

ล่าสุด ดาวเทียมจับพื้นที่ในเขตสะเมิง ไม่มีจุดความร้อนแล้ว เหลือไฟบางจุดดับไม่สนิท จนท.ได้เข้าตรวจสอบ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ค่า PM2.5 น่าจะสูงกว่าพื้นที่อื่น จึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนเป็นพื้นที่กว้าง ตั้งแต่ เด็ก ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะ COPD Asthma ผู้สูงอายุ จึงแนะนำให้สวมหน้ากาก N95 และงดกิจกรรมนอกอาคาร หรือให้อยู่ในห้อง Clean room/Safety zone เพื่อป้องกันตนเองจากภาวะฝุ่นควันหนาแน่น

สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันจากการเผาป่าหรือ PM2.5 แล้วมีอาการ หายใจหอบเหนื่อย แสบจมูก ไอ จาม ผิวหนังอักเสบแสบตา คันตามีตาแดงร่วมด้วย ให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที หรือปฐมพยาบาลโดยใช้น้ำสะอาดล้างตา หรือล้างบริเวณโพรงจมูก และซับด้วยผ้าสะอาด

Advertisements

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

Jake KN.

นักคิดนักเขียน พร้อมเสิร์ฟทุกข่าวในสังคม การเมือง อาชญากรรม เทคโนโลยี ต่างประเทศ บันเทิง เศรษฐกิจ โควิด-19 กระแสไวรัลในโลกโซเชียล ทุกเหตุการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button