ในหลวง-ราชินี-เจ้าคุณพระ เสด็จฯไป วัดนิเวศธรรมประวัติ จ.อยุธยา
ในหลวง ราชินี พร้อมด้วยเจ้าคุณพระ เสด็จฯไปทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ จ.อยุธยา
วันที่ 20 มีนาคม 2564 เวลา 16.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติ และทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสนี้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
วิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร จัดตั้งขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2555 คณะสงฆ์ พร้อมด้วยอุบาสก อุบาสิกา วัดนิเวศธรรมประวัติ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นองค์อุปถัมภ์โครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติ
ต่อมาจึงได้ประสานกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และกรมศิลปากร จัดตั้งวิทยาลัยเสริมทักษะสำหรับพระภิกษุ สามเณร เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา โดยเปิดการเรียนการสอนเป็นครั้งแรก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา ที่เป็นพระภิกษุ สามเณร มีโอกาสได้ศึกษาต่อ และเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษา
ปัจจุบัน เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นใน 5 สาขาวิชา ประกอบด้วย สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาช่างยนต์ สาขาวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์เกมส์และแอนิเมชัน มีพระภิกษุ และสามเณรนักเรียน จำนวน 109 รูป
โดยได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษา และสถานประกอบการที่หลากหลายครอบคลุมในทุกสาขาวิชา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนบุคลากรและองค์ความรู้มาใช้ในการพัฒนาพระภิกษุ สามเณรนักเรียนให้มีความเชี่ยวชาญ และก้าวทันกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาควบคู่กับการเป็นศาสนทายาทที่ดี มีศีล มีธรรม ดังอัตลักษณ์ของวิทยาลัยที่ว่า “ความรู้ดี ทักษะเด่น เน้นคุณธรรม ดำรงพระพุทธศาสนา”
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติและทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุ สามเณร ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นครั้งที่ 2 ภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
ซึ่งในครั้งแรก ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ณ อาคารที่ทำการศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งมีประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างเนืองแน่น
โดยตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน ทุกคนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง โบกธงพระปรมาภิไธย “วปร.” และธงพระนามาภิไธย “สท” พร้อมเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ด้วยความจงรักภักดี และปลื้มปีติที่ได้ชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกให้บริการด้านสาธารณสุข ดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และพิมเสนน้ำ แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ซึ่งการได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างหาที่สุดมิได้
ที่มา: Facebook – พระลาน
- ในหลวง-ราชินี-เจ้าคุณพระ ทรงเปิดศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี
- ในหลวง-ราชินี-เจ้าคุณพระ เสด็จฯไปทรงนมัสการพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก
- ในหลวง ทรงรับ ‘ปลาวาฬ’ เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
- ‘ในหลวง’ ทรงรับ ตร. เจ็บจาก ม็อบ20มีนา เป็น คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์