ครม.ไฟเขียว มาตรการเด็ดขาด เอาผิดข้าราชการ ล่วงละเมิด-คุกคามทางเพศ
ครม.เห็นชอบมาตรการเอาผิดข้าราชการ กรณีล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ เช่น สั่งให้ออกจากราชการ, การสั่งให้ประจำส่วนราชการ, การสั่งสำรองราชการ
ข้าราชการ ล่วงละเมิดทางเพศ – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการทางวินัยและจริยธรรมข้าราชการ กรณีล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ
จากการที่เป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม การกระทำผิดของข้าราชการ กรณีชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ คุกคามทางเพศ และการใช้สื่อออนไลน์ในการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งถือเป็นความผิดทางวินัยและจริยธรรมร้ายแรง แต่ในทางปฏิบัติพบว่า มาตรฐานการดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมของข้าราชการประเภทต่าง ๆ ยังมีความแตกต่างกัน
ทั้งในเรื่องการนำมาตรการทางการบริหารมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการทางวินัย ตลอดจนมาตรฐานการลงโทษที่ลักลั่นกัน ส่งผลให้การดำเนินการขาดประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการดำเนินการทางวินัยที่ว่า “ยุติธรรม เป็นธรรม รวดเร็ว” ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ
1 ผู้บังคับบัญชาไม่นำมาตรการทางการบริหารมาใช้ดำเนินการหรือละเลยไม่ติดตาม
2 ผู้ปฏิบัติงานส่วนราชการ อาจขาดบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการดำเนินการทางวินัย
3 ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการระดับสูง อาจมีอิทธิพลต่อคณะกรรมการสอบสวน พยานบุคคล หรือผู้ให้ข้อมูล ทำให้เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
4 บางเรื่องมีความซับซ้อน เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายระดับ ต่างกรม ต่างกระทรวง หรือมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้า
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการทางวินัย และแก้ปัญหาความลักลั่นระหว่างการดำเนินการทางวินัยและมาตรฐานการลงโทษ ครม. จึงมีมติเห็นชอบมาตรการทางการบริหารเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการทางวินัยและจริยธรรม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ เพื่อให้การดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมข้าราชการเป็นมาตรฐานเดียว และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยให้องค์กรการบริหารงานบุคคลประเภทต่างๆ นำมาตรการทางการบริหารที่เกี่ยวข้องกับวินัยและจริยธรรมร้ายแรง มาใช้ในการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการ กรณีชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ คุกคามทางเพศ รวมถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการกระทำการดังกล่าว เช่น การสั่งพักราชการหรือการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน การสั่งให้ประจำส่วนราชการ การสั่งสำรองราชการ หรือการสั่งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินที่มีอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากผู้บังคับบัญชาละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย
มากไปกว่านั้น ยังให้สำนักงาน ก.พ. จัดประชุมร่วมกันระหว่างองค์กรการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่างๆ เพื่อศึกษาวิเคราะห์กฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคล เพื่อกำหนดมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์กลาง ตามมาตรา 10 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เช่น การนำมาตรการทางการบริหารมาใช้เพื่อให้การดำเนินการทางวินัยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากพบข้าราชการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง โดยมีหลักฐานชั้นต้นเพียงพอ ก็ควรให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ที่มา: Facebook รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล
- กทม. จ่ายโบนัส โควิด-19 แก่ ข้าราชการ-ลูกจ้าง รายละ 12,000 บาท
- กรมบัญชีกลาง ย้ำ! ข้าราชการ เกษียณ ปี 65 อย่าลืมยื่นขอรับบำเหน็จบำนาญล่วงหน้า
- สธ. เผย ยอดฉีดวัคซีนโควิด ในประเทศ ไทย
- กรมราชทัณฑ์ แจงกรณี ‘จดหมายทนายอานนท์’ ยืนยันเข้าไปตรวจโควิด