ขยายเวลา! ลงทะเบียน เราชนะ ถึง 5 มีนา กลุ่มพิเศษ
กระทรวงการคลังได้ทำการประกาศถึงการขยายระยะเวลาในการ ลงทะเบียน ภายในโครงการ เราชนะ สำหรับ กลุ่มพิเศษ และการเปิดให้มีการสละสิทธิ์โครงการของข้าราชการที่ผ่านการคัดกรองแล้วด้วยเช่นกัน
ขยายเวลาลงทะเบียนเราชนะถึง 5 มี.ค. 64 – หลังจากที่ได้ทำการเปิดไปเรียบร้อยแล้วกับการ ลงทะเบียน ภายในโครงการ เราชนะ สำหรับ กลุ่มพิเศษ ที่ต้องการความช่วยเหลือในการดำเนินการ ซึ่งผลตอบรับที่ได้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทางกระทรวงการคลังจึงได้มีการขยายระยะเวลาออกไปจากเดิมวันที่ 25 ก.พ. 2564 มาเป็น 5 มี.ค. 2564 แทน และในส่วนของข้าราชการที่ได้รับสิทธิ์นั้นในเวลานี้ได้มีการเปิดให้ทำการสละสิทธิ์อย่างเป็นทางการแล้ว
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยจำนวนประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปในระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ว่า มีประชาชนสนใจลงทะเบียนมากกว่า 11.0 ล้านคน โดยมีจำนวนผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนยืนยันรับสิทธิ์โครงการฯ แล้วมากกว่า 7.5 ล้านคน
โฆษกกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า สำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลงทะเบียน
โดยขณะนี้ได้มีการขยายระยะเวลาปิดรับลงทะเบียนจากเดิมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2564 โดยนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) และต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชน (Dip Chip) ผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture หรือ EDC) พร้อมกำหนดรหัส (PIN Code)
อย่างไรก็ดี ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษที่ประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องแสดงตนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยด้วยตนเอง โดยไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากจะต้องมีการเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน (Verification) อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์
ทั้งนี้ ประชาชนที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับวงเงินสิทธิ์เป็นรายสัปดาห์ จำนวน 3,500 บาทต่อเดือน หรือ 7,000 บาทต่อคนตลอดทั้งโครงการ เช่นเดียวกับประชาชนกลุ่มอื่น ๆ โดยสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรประชาชนได้ที่เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) หรือผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สำหรับร้านค้าในโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
อย่างไรก็ตาม จากการที่มีประชาชนที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษไปขอรับบริการที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก กระทรวงการคลังได้มีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม
โดยประชาสัมพันธ์ไปยังหมู่บ้านและอำเภอต่าง ๆ เพื่อสำรวจจำนวนประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และประสานไปยังธนาคารกรุงไทยให้จัดจุดบริการเคลื่อนที่เพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มบริการจัดทำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) แก่ประชาชนที่มีบัตรประชาชนรูปแบบเก่า รวมถึงบัตรประชาชนชำรุดเพื่อให้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้
สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น แต่ไม่สามารถขอรับสิทธิ์โครงการฯ เนื่องจากคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 กรณีข้าราชการการเมือง ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐที่รับค่าตอบแทนโดยตรงจากหน่วยงานของรัฐ และไม่มีลักษณะของงานที่เป็นอาสาสมัครหรือเป็นการจ้างรายวัน รวมถึงผู้รับบำนาญปกติ
กลุ่มดังกล่าวนี้สามารถสละสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐที่มีลักษณะงานเป็นอาสาสมัครหรือการจ้างรายวัน และได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง หากผ่านเกณฑ์การคัดกรองของโครงการฯ สามารถได้รับความช่วยเหลือจากโครงการฯ ได้
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน