ธ.ก.ส. ปลื้ม! เกษตรกร สนใจ ชำระดีมีคืน จนวงเงินเกือบเต็ม
ธ.ก.ส. มีความยินดีที่บรรดา เกษตรกร ให้ความสนใจภายในโครงการ ชำระดีมีคืน จนวงเงินเกือบเต็มตามที่ได้กำหนดไว้ ทางธนาคารแนะนำให้ทำการเร่งชำระภายใน 17 ก.พ.นี้
ธ.ก.ส. มีความยินดีที่บรรดา เกษตรกร ให้ความสนใจชำระหนี้ตามโครงการ ชำระดีมีคืน แล้วกว่า 1.39 ล้านราย จนวงเงิน 3,000 ล้านบาทที่เตรียมไว้ใกล้ครบจำนวน แนะให้ผู้ที่มีสถานะหนี้ปกติเร่งชำระหนี้ภายใน 17 ก.พ.นี้ เพื่อรับดอกเบี้ยคืนก่อนยุติโครงการวันที่ 18 ก.พ. 64 ด้านลูกค้าที่มีสถานะหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกินกว่า 15 เดือน ยังคงสามารถชำระหนี้ตามโครงการลดภาระหนี้ได้จนถึง 31 มี.ค. 64
นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านโครงการชำระดีมีคืน วงเงินรวมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ปกติ เพื่อลดภาระหนี้ และโครงการลดภาระหนี้ สำหรับลูกค้าที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ค้างชำระหรือสถานะหนี้ปกติที่มีดอกเบี้ยค้างชำระเกินกว่า 15 เดือน เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี รวมถึงช่วยลดความกังวล และสามารถมีเงินกลับคืนเข้าสู่กระเป๋าเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
โดยเมื่อชำระหนี้จะได้รับคืนดอกเบี้ยตามประเภทของลูกค้า ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น
เนื่องจากขณะนี้มีเกษตรกรลูกค้า ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกร ให้ความสนใจชำระหนี้ตามโครงการชำระดีมีคืน ถึง ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วกว่า 1.39 ล้านราย ดอกเบี้ยรวมจำนวน 14,348 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. ได้คืนดอกเบี้ยให้ลูกค้าแล้วกว่า 2,363 ล้านบาท ทำให้วงเงินใกล้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ 3,000 ล้านบาท ธ.ก.ส. จึงแนะนำให้ลูกค้าสถานะปกติเร่งชำระหนี้ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามโครงการภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 โดย ธ.ก.ส. จะปิดโครงการชำระดีมีคืนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการลดภาระหนี้ โดยมีสถานะหนี้ NPL หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกินกว่า 15 เดือน ซึ่งมีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ยังคงสามารถตรวจสอบสิทธิ์และชำระหนี้ตามโครงการ ได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
โดย ธ.ก.ส. จะนำดอกเบี้ยที่คืนให้มาลดภาระหนี้ด้วยการตัดชำระต้นเงิน และหลังจากตัดชำระหนี้แล้ว มีเงินคงเหลือจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรในวันถัดไป ซึ่งในกรณีลูกค้าเกษตรกรและบุคคลจะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง และกรณีกลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่จำกัดวงเงินที่จะคืน
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 LINE Official BAAC Family และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน